อินเดียยึดเงินจำนวน 725 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.5 หมื่นล้านบาท) จากบัญชีในประเทศของบริษัท เสียวหมี่ หลังจากการสืบสวนพบว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่จากจีนโอนเงินอย่างผิดกฎหมายโดยแอบอ้างว่าเป็นค่าสิทธิ ทางการเผยวันนี้ (30)
หน่วยงานอาชญากรรมการเงินของอินเดียเริ่มการสืบสวนเสียวหมี่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และระบุว่า พวกเขาได้ยึดเงินจากบริษัทสาขาของเสียวหมี่ หลังพบว่าบริษัทแห่งนี้โอนเงินให้นิติบุคคลในต่างประเทศ 3 ราย
"เงินจำนวนมากในนามของค่าสิทธิถูกโอนตามคำสั่งของบริษัทแม่ของเสียวหมี่ในจีน" หน่วยงานนี้ ระบุในถ้อยแถลง
ด้านเสียวหมี่ยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอความคิดเห็นของเอเอฟพีในตอนนี้
เมื่อเดือนธันวาคม สำนักงานในอินเดียของเสียวหมี่ถูกบุกตรวจค้นระหว่างการสืบสวนอีกคดีหนึ่งเกี่ยวกับการหลบเลี่ยงภาษีเงินได้
ในเวลานั้น ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนรายอื่น รวมถึงหัวเว่ย ก็ถูกทางการอินเดียตรวจค้นสำนักงานของตัวเองในประเทศนี้เช่นกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างนิวเดลีและปักกิ่งอยู่ในช่วงตกต่ำสุดนับตั้งแต่การปะทะนองเลือดแถบชายแดนหิมาลัยระหว่างทหารจาก 2 ฝั่งในปี 2020
หลังจากนั้น กระทรวงมหาดไทยของอินเดียได้สั่งแบนแอปพลิเคชันหลายร้อยแอปที่มาจากจีน รวมทั้ง TikTok สื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม
รัฐบาลอธิบายการสั่งแบนครั้งนั้นว่าเป็นการป้องกันภัยคุกคามอำนาจอธิปไตยของอินเดีย กระแสต่อต้านจีนในอินเดียรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่การปะทะนองเลือดปี 2020 นำมาสู่การเรียกร้องให้ผู้บริโภคคว่ำบาตรสินค้าจีน
อย่างไรก็ตาม จีนยังคงเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจสำคัญสำหรับอินเดีย โดยเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าการค้า 2 ฝ่ายอยู่ที่มากกว่า 1.25 แสนล้านบาท ตามรายงานข่าว
ที่มา : เอเอฟพี