เอเจนซีส์ - ชาวฝรั่งเศสพากันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งรอบสองในวันอาทิตย์ (24 เม.ย.) เพื่อจะตัดสินว่าประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ที่สนับสนุนสหภาพยุโรป จะรักษาตำแหน่งของเขาได้หรือไม่ หรือจะถูกแย่งเก้าอี้โดย มารีน เลอแปง นักการเมืองขวาจัด
ผลสำรวจความคิดเห็นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ยกให้มาครงมีคะแนนนิยมมากกว่า ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ถึงแม้ เลอแปง จะพยายามทำให้ภาพลักษณ์ของเธออ่อนลงและปรับลดนโยบายบางอย่างของพรรคเธอก็ตาม แต่ก็ยังไม่ถูกใจใครหลายคน
แต่ยังไม่สามารถตัดทิ้งโอกาสที่ เลอแปง จะชนะแบบพลิกโผออกไปได้ จากโพลที่แสดงว่าผู้สมัครทั้งสองไม่มีผู้สนับสนุนหลักมากพอที่จะชนะ มันจึงขึ้นอยู่กับเหล่าผู้ที่ยังคงลังเลว่าจะเลือกใครดี เป็นการต่อสู้ทางความคิดระหว่างความกังวลว่าจะได้ประธานาธิบดีขวาจัด กับความไม่พอใจต่อมาครงที่สั่งสมมานาน
ชัยชนะของเลอแปง อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เทียบเท่ากับเบร็กซิต หรือการชนะเลือกตั้งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่สหรัฐฯ ซึ่งจะสิ้นสุดการปกครองหลายทศวรรษโดยเหล่าผู้นำกระแสหลักของฝรั่งเศส และจะเป็นภัยคุกคามล่าสุดต่ออนาคตของสหภาพยุโรป
คูหาเลือกตั้งเปิดเวลา 8.00 น. และจะปิดเวลา 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น การคาดคะเนผลเบื้องต้น คาดว่าจะได้รับทันทีที่ปิดคูหา ซึ่งในตอนเที่ยง มีผู้ไปลงคะแนน 26.4% ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2017 ซึ่งในตอนนั้นมีผู้ไปลงคะแนนต่ำสุดในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ
ฮิวโก วินเตอร์ พนักงานขายวัย 26 ปีในกรุงปารีสกล่าวว่า เขาเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่ไม่ต้องการลงคะแนนเสียง “ผมไม่เห็นความสำคัญในการเลือกระหว่าง 2 คนที่ไม่มีใครสอดคล้องกับแนวคิดของผม” วินเทอร์กล่าวขณะซื้ออาหารมื้อเช้า “เราอยู่ในโลกคู่ขนาน นักการเมืองไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชน”
ในเมืองดูเอ เมืองขนาดกลางในภาคเหนือของฝรั่งเศส ซึ่งเลอแปงนำหน้ามาครงในการลงคะแนนเสียงรอบแรกเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน อังเดร โลยเลต์ วัย 69 ปี กล่าวว่า ลงคะแนนให้มาครง เช่นเดียวกับที่เคยทำเมื่อวันที่ 10 เมษายน “เขามีข้อบกพร่อง แต่เขามีคุณสมบัติเช่นกัน เขาคือคนที่ดีที่สุดที่จะก้าวต่อไป เรากำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก”
มาครง วัย 44 ปี ซึ่งชนะ เลอแปง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่แล้วเมื่อ 5 ปีก่อน ได้เตือนถึงสงครามกลางเมืองหาก เลอแปง ที่มีนโยบายห้ามสวมผ้าคลุมศีรษะของชาวมุสลิมในที่สาธารณะ ได้รับการเลือกตั้ง พร้อมเรียกร้องให้ผู้รักประชาธิปไตยหนุนหลังเขา
เลอแปง วัย 53 ปี เน้นการหาเสียงในประเด็นเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้นในประเทศที่เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกอย่างฝรั่งเศส ซึ่งชาวฝรั่งเศสหลายคนบอกว่าเศรษฐกิจยิ่งแย่ลงเมื่อราคาพลังงานโลกพุ่งสูงขึ้น เธอยังด้อยค่ารูปแบบความเป็นผู้นำของมาครง ซึ่งเธอกล่าวว่า เป็นชนชั้นสูงที่ดูถูกเหยียดหยามคนธรรมดา
ในบรรดาผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มแรกที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ข้าราชการวัย 56 ปีรายหนึ่งกล่าวว่า เขาลงคะแนนให้ เลอแปง เพราะไม่เห็นด้วยกับมาครง “บอกตามตรงผมรู้สึกผิดหวังมาก ฝรั่งเศสของเราแย่มาหลายปีแล้ว มาครงไม่ได้ทำอะไรเพื่อชนชั้นกลาง และช่องว่างกับคนรวยก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ” เขากล่าว
เลอแปง ซึ่งถูกมาครงวิจารณ์ว่าเคยชื่นชมประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียในอดีต ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ โดยกล่าวว่า เธอมีแผนจะให้ความสำคัญกับพลเมืองฝรั่งเศสในเรื่องงานและที่อยู่อาศัย การยกเลิกสวัสดิการสำหรับชาวต่างชาติจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชาวฝรั่งเศสทุกคน โดยไม่คำนึงถึงศาสนาหรือต้นกำเนิด
ฌอง แดเนียล เลวี ผู้ทำโพลของ แฮร์ริส อินเตอร์แอ็กทีฟ กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นแสดงให้เห็นว่า เลอแปง ไม่น่าจะชนะ เพราะนั่นจะต้องมีการเปลี่ยนความตั้งใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก
หากมาครงมีชัย เขาจะต้องเผชิญกับสมัยที่ 2 ที่ยากลำบาก และมีแนวโน้มว่าจะมีการประท้วงเกี่ยวกับนโยบายของเขาที่จะดำเนินการปฏิรูปธุรกิจต่อไป ซึ่งรวมถึงการเพิ่มอายุเกษียณจาก 62 เป็น 65 ปี
ถ้าหาก เลอแปง กลายเป็นผู้ชนะ เธอคงจะพยายามเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศและระหว่างประเทศของฝรั่งเศสอย่างรุนแรง และการประท้วงตามท้องถนนสามารถเริ่มต้นได้ทันที จะเกิดแรงกระแทกที่สัมผัสได้ทั่วยุโรป และที่อื่นๆ
ใครก็ตามที่ขึ้นเป็นผู้นำ ความท้าทายหลักประการแรกคือ การชนะการเลือกตั้งรัฐสภาในเดือนมิถุนายน เพื่อให้ได้เสียงข้างมาก