รัสเซียเดินหน้าถล่มเมืองต่างๆ ทั่วยูเครนในวันจันทร์ (18 เม.ย.) ขณะชุมนุมกำลังพลสำหรับการโจมตีทางภาคตะวันออกแบบเต็มอัตราศึก ด้านผู้นำเคียฟอ้างเมืองมาริอูโปลยังไม่แตก และทหารทุกคนพร้อมรบจนถึงที่สุด ขณะมอสโกระบุกองกำลังชาตินิยมนาซีใหม่และนักรบรับจ้างต่างชาติที่เมืองนั้นได้รับคำสั่งให้ยิงทิ้งผู้ที่ยอมจำนนทันที เวลาเดียวกัน เครมลินเตือนวอชิงตันระวังเจอผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง หากส่งอาวุธหนักให้เคียฟ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในคำแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า ได้ทำลายสถานที่ทางทหารของยูเครนรวม 16 แห่งที่อยู่ในแคว้นคาร์คิฟ ซาโปริซเซีย โดเน็ตสก์ และดนิโปรเปโตรฟสก์ ตลอดจนที่ท่าเรือของเมืองมีโคไลอิฟ โดยเมืองและแคว้นเหล่านี้อยู่ทางภาคใต้และภาคตะวันออกของยูเครน
นอกจากนั้น กระทรวงกลาโหมหมีขาวบอกด้วยว่า กำลังทางอากาศของรัสเซียยังได้เปิดการโจมตีใส่พื้นที่ต่างๆ 108 แห่ง ซึ่งกองกำลังของยูเครนกำลังรวมพลกันอยู่ ส่วนปืนใหญ่รัสเซียก็ถล่มเป้าหมายทางทหารของยูเครน 315 แห่งตลอดคืนที่ผ่านมา
สำหรับทางการยูเครนแถลงว่า มีขีปนาวุธยิงใส่สถานที่ทางทหารหลายแห่งและจุดบริการยางรถยนต์แห่งหนึ่ง ในเมืองลวิฟ ทางภาคตะวันตกของประเทศ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนโปแลนด์ราว 60 กิโลเมตร อันดรีย์ ซาโดวีย์ นายกเทศมนตรีเมืองลวิฟระบุว่า การโจมตีเหล่านี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน และบาดเจ็บ 11 คน
ในส่วนเมืองมาริอูโปล เวลานี้เหลือกองกำลังยูเครนชุดสุดท้ายหลบอยู่ในโรงงานเหล็กและเหล็กกล้า “อาซอฟสตัล” โดยไม่มีการวางอาวุธตามกำหนดเส้นตายของฝ่ายรัสเซียซึ่งขีดไว้ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17)
รัสเซียล้อมเมืองนี้เอาไว้ตั้งแต่ช่วงยกกำลังบุกยูเครนแรกๆ เนื่องจากถ้ายึดมาริอูโปลได้ แดนหมีขาวจะมีดินแดนเชื่อมต่อทางบกระหว่างคาบสมุทรไครเมียที่มอสโกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตนตั้งแต่เมื่อปี 2014 กับสองรัฐขบถโปรมอสโก นั่นคือ โดเน็ตสก์ และ ลูฮันสก์ ในเขตดอนบาสส์ทางตะวันออกของยูเครน
นายกรัฐมนตรีเดนิส ชไมฮัล ของยูเครน ยืนยันกับสื่ออเมริกันเมื่อวันอาทิตย์ว่า มาริอูโปลยังไม่แตก และทหารที่เหลืออยู่ทุกนายจะสู้จนถึงที่สุด
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า มีนักรบรับจ้างชาวต่างชาติราว 400 นายอยู่ในโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลที่ถูกปิดล้อม อีกทั้งอ้างว่า เคียฟสั่งให้นักรบชาตินิยมนาซีใหม่ “กองพันอาซอฟ” ยิงทิ้งผู้ที่ต้องการยอมจำนนทันที
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาขู่ว่า ถ้ากองกำลังมอสโกฆ่าทหารยูเครนที่เหลืออยู่ในมาริอูโปล การเจรจาสันติภาพเป็นอันยุติ
ทว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การเจรจา “ถึงทางตันแล้ว”
ในคืนวันอาทิตย์ เซเลนสกีแถลงเตือนว่า กองทัพรัสเซียกำลังเตรียมปฏิบัติการโจมตีพื้นที่ทางตะวันออกในอนาคตอันใกล้ และต้องการยึดและทำลายดอนบาสส์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยูเครนเรียกร้องให้ประชาชนในดอนบาสส์อพยพไปทางตะวันตกก่อนที่รัสเซียจะเปิดฉากบุกหนัก
เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ได้สั่งระงับการอพยพประชาชนจากเมืองที่เป็นแนวหน้าการสู้รบทางตะวันออกเป็นวันที่ 2 โดยกล่าวหารัสเซียปิดกั้นและยิงปืนใหญ่ถล่มเส้นทางอพยพ ซึ่งถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ เซเลนสกียังบอกว่า ได้เชิญประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ไปยูเครนเพื่อพิสูจน์ด้วยตาตัวเองว่า กองทัพรัสเซีย “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ซึ่งเป็นคำที่มาครงหลีกเลี่ยงที่จะใช้
เซเลนสกียังกล่าวว่า สถานการณ์ในมาริอูโปล “โหดเหี้ยมทารุณ” และเรียกร้องให้ตะวันตกส่งอาวุธหนักให้ยูเครนทันที
ทว่า รัสเซียเตือนอเมริกาว่า จะได้รับผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงถ้าส่งระบบอาวุธที่ “อ่อนไหวที่สุด” ให้เคียฟ
วันเสาร์ที่ผ่านมา (16) กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังอ้างว่า ได้ยิงเครื่องบินขนส่งของยูเครนตกในโอเดสซา โดยเครื่องบินลำดังกล่าวขนอาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)