เอเอฟพี - ประธานาธิบดีศรีลังกา โกตาบายา ราชปักษา แถลงรายชื่อคณะ ครม.ชุดใหม่ในวันจันทร์ (18 เม.ย.) แต่ไม่รวมไปถึงน้องชาย 2 คน และหลานชาย 1 คน แต่มหินทรา ราชปักษา ยังคงนั่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปท่ามกลางการประท้วงวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรง ตัดกระแสไฟฟ้า น้ำมันไม่มีขาย โรงพยาบาลไม่มียารักษาโรค ก่อนหน้าโคลัมโบมีกำหนดจะหารือรับความช่วยเหลือทางการเงิน จำนวน 4 พันล้านดอลลาร์จากสถาบันการเงินโลก IMF ที่กำลังจะเริ่มขึ้นพรุ่งนี้ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (18 เม.ย.) ว่า ท่ามกลางสมาชิกรัฐสภาศรีลังกาต่อต้านรัฐบาลโคลัมโบ ขณะที่พรรคฝ่ายค้านต่างไม่ยอมเข้าร่วมคำเชิญเพื่อก่อตั้งรัฐบาลแห่งชาติของประธานาธิบดี โกตาบายา ราชปักษา ผู้ที่ยืนกรานจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปเพื่อนำศรีลังกาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรง ตัดกระแสไฟฟ้า น้ำมันไม่มีขาย โรงพยาบาลไม่มียารักษาโรคให้สำเร็จ
โดยในวันจันทร์ (18) ประธานาธิบดีราชปักษาได้ประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่แต่ไร้เงาคนในครอบครัวบางคน หลังประชาชนแดนสิงหลออกมาประท้วงกดดันไม่พอใจการจัดการวิกฤตของโคลัมโบ
ทั้งนี้ พบว่ามหินทรา ราชปักษา ยังคงนั่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่ทว่าในคณะ ครม.ชุดใหม่ไม่มีชื่อญาติ เช่น ชามาล ราชปักษา (Chamal Rajapaksa) และน้องชายคนรองอดีตรัฐมนตรีคลังศรีลังกา บาซิล ราชปักษา (Basil Rajapaksa)
นอกจากนี้ พบว่าบุตรชายของมหินทรา ราชปักษา คือ นามาล (Namal Rajapaksa) ราชปักษา ที่เคยนั่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาศรีลังกา และได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้นำอนาคตใหม่ศรีลังกากลับไม่มีรายชื่อใน ครม.วันจันทร์ (18) เช่นกัน
ซึ่งคณะรัฐมนตรีศรีลังกา 21 คนนี้เอเอฟพีชี้ว่า มีจำนวนน้อยกว่าชุดที่ผ่านมา 7 คนที่ได้ลาออกเกือบหมดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อความโกรธแค้นของสาธารณะที่เป็นผลมาจากการคอร์รัปชันและการเลือกปฏิบัติจนทำให้แดนสิงหลประสบวิกฤตครั้งร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เอเอฟพีชี้ว่า ศรีลังกาจัดอยู่ในประเทศยากจนแต่กลับพบว่า รัฐมนตรีศรีลังกามีทั้งรถ SUV ติดตามประจำตำแหน่งจำนวนหลายคัน มีหน่วยบอดี้การ์ดติดตามชุดใหญ่ พร้อมไปกับได้รับน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างไม่อั้น รวมไปถึงที่พักประจำตำแหน่งและเงินสนับสนุนสำหรับการสังสรรค์
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า รัฐมนตรีคลังศรีลังกาคนใหม่ อาลี ซาบรี (Ali Sabry) เป็นผู้นำคณะรัฐบาลโคลัมโบไปที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่อหารือกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF เพื่อขอรับความช่วยเหลือกู้วิกฤตแดนสิงหล ซึ่งการหารือจะเริ่มต้นตั้งแต่วันอังคาร (19) นี้
ศรีลังกาต้องการได้รับความช่วยเหลือจำนวน 3-4 พันล้านดอลลาร์จาก IMF เพื่อสร้างความสมดุลกับรายจ่ายและเพิ่มเงินคงคลัง
สถานการณ์ในศรีลังกายังคงไม่ดีขึ้นเพราะในวันนี้ (18) บริษัทพลังงาน ลังกา IOC (Lanka IOC) ผู้จำหน่ายเชื้อเพลิงรายใหญ่คิดเป็น 1 ใน 3 ของตลาดภายในศรีลังกาประกาศปรับเพิ่มราคาน้ำมันอย่างสูงลิ่วอีกครั้งโดยให้เหตุผลเนื่องมาจากปัญหาค่าสกุลเงินรูปีศรีลังกาตกลงมาเป็นอย่างมาก
เอเอฟพีรายงานว่า ต้นทุนของน้ำมันดีเซลที่ถือเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในกลุ่มการขนส่งสาธารณะพุ่งทะยานไป 138% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทอื่นสูงขึ้นเกือบ 2 เท่า
ขณะเดียวกัน การประท้วงที่บริเวณด้านนอกทำเนียบสำนักงานประธานาธิบดีราชปักษามาจนถึงวันจันทร์ (18) เป็นวันที่ 10 ติดต่อกันแล้ว โดยกลุ่มผู้ประท้วงต่างตั้งแคมป์ปักหลักพักยาวและยืนยันที่จะประท้วงต่อไปจนกว่าบรรดาผู้นำศรีลังกาจะลาออก ส่วนฝ่ายค้านประกาศที่จะเดินหน้าโค่นล้มรัฐบาลราชปักษา ผ่านการลงคะแนนไม่ไว้วางใจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า