รัสเซียอ้างสื่อเครือข่ายทีวีสหรัฐฯ “เอ็นบีซีนิวส์” แฉเอง พวกเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอเมริกันจงใจปล่อยข้อมูลที่ “น่าเชื่อถือน้อยมาก” เกี่ยวกับวิกฤตยูเครน ซึ่งบางครั้งเป็นแค่การกล่าวอ้างขึ้นมาเท่านั้น ทั้งหมดนี้เพื่อมุ่งหวังเอาชนะรัสเซียใน “สงครามข้อมูลข่าวสาร” รวมถึงอ้างว่าเพื่อดักคอเครมลินไม่ให้ทำอะไรบางอย่าง ถึงแม้ยังไม่ชัดเจนว่ามอสโกจะทำอย่างนั้นจริงๆ ตัวอย่างเช่น การยืนยันว่า ปูตินขอความช่วยเหลือทางทหารจากจีน
อาร์ที หรือชื่อเดิมว่า รัสเซียทูเดย์ สื่อทีวีระหว่างประเทศ ตลอดจนเว็บไซต์ข่าวของทางการรัสเซีย อ้างอิงเผยแพร่ต่อรายงานชิ้นหนึ่งของฝ่ายข่าวเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีของอเมริกาที่ออกมาเมื่อวันพุธ (6เม.ย.) โดยที่รายงานนี้กล่าวย้ำว่า “เมื่อพวกสื่ออเมริกันอ้างอิง “ข่าวกรอง” ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อเตือนว่า รัสเซียกำลังเตรียมใช้อาวุธเคมีในยูเครน และเมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังย้ำคำเตือนเหล่านั้นด้วยนั้น เท่ากับว่าพวกสื่ออเมริกันกำลังมีส่วนร่วมในการรณรงค์ปล่อยข้อมูลเท็จ”
รายงานของเอ็นบีซีนิวส์บอกว่า มีเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองหลายคนของอเมริกาที่ออกคำเตือนนี้ เปิดเผยว่า เจตนาที่แท้จริงคือป้องกันไม่ให้รัสเซียใช้อาวุธเหล่านั้น ทั้งที่พวกเขาเองมองว่า ข่าวกรองเหล่านั้น “น่าเชื่อถือน้อยมาก” ก็ตาม
เอ็นบีซียังอ้างอิงการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ “ข่าวกรองที่น่าเชื่อถือน้อยมาก” เหล่านี้ ซึ่งอธิบายว่า ภารกิจของพวกเขาในการปล่อยข้อมูลผิดๆ เช่นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการ “บ่อนทำลายการโฆษณาชวนเชื่อของมอสโก และป้องกันไม่ให้รัสเซียสามารถกำหนดนิยามว่าจะให้สงครามนี้เป็นที่รับรู้กันอย่างไรในสายตาชาวโลก”
เอ็นบีซีนิวส์บอกว่า บางข่าวที่ข่าวกรองอเมริกันเผยออกมานั้นมีความแม่นยำ เช่น การที่คณะบริหารของไบเดนย้ำตลอดหลายสัปดาห์ว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน มีแผนโจมตียูเครน
แต่หลายข่าวเป็นการกุขึ้น เช่น รายงานที่ว่า เหล่าที่ปรึกษาของปูตินเองกำลังทำให้ปูตินเข้าใจสถานการณ์การรบในยูเครนผิดพลาด รวมถึงการที่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกันหลายรายออกมายืนยันว่า ปูตินได้หันไปขอความช่วยเหลือทางทหารจากจีน ซึ่งข่าวหลังนี้ พวกเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอเมริกันอ้างว่า แม้เป็นการเสกสรรค์ขึ้นเอง แต่มีเป้าหมายเพื่อตัดไฟแต่ต้นลมสกัดจีนไม่ให้ส่งอาวุธให้รัสเซียจริงๆ
เอ็นบีซียังอ้างอิงการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยุโรปคนหนึ่งที่บอกว่า รายงานดังกล่าวเป็น “เกมประชาสัมพันธ์เพื่อป้องกันไม่ให้จีนให้การสนับสนุนด้านอาวุธใดๆ แก่มอสโก”
ขณะที่อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองคนหนึ่งซึ่งเวลานี้เกษียณอายุแล้ว เคยบอกกับเอ็นบีซีว่า การอ้างว่าปูตินกำลังถูกทีมงานของเขาเองชักนำไปในทางที่ผิดพลาดนั้น จริงๆ แล้ว “ข่าวอย่างนี้คุณไม่มีทางพิสูจน์ได้หรอกว่าจริงหรือไม่จริง”
อนึ่ง ก่อนที่สงครามจะระเบิดขึ้น พวกสื่ออเมริกันพากันเตือนล่วงหน้านานหลายสัปดาห์ว่า รัสเซียกำลังวางแผนโจมตีพลเมืองที่พูดภาษารัสเซียในเขตดอนบาสส์ และป้ายสีว่า เป็นฝีมือกลุ่มชาตินิยมยูเครนเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเปิดสงคราม
รานงานเหล่านี้อ้างอิงการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ รวมทั้งแหล่งข้อมูลข่าวกรองที่ไม่เปิดเผยตัวตน ทว่า คนเหล่านี้ทั้งหมดไม่ได้แสดงหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวอ้างแต่อย่างใด และเมื่อถูกสื่อกดดัน เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แก้ต่างว่า พวกที่สงสัยในข้อกล่าวอ้างเหล่านี้กำลังพยายามหาการปลอบประโลมจากข้อมูลที่รัสเซียปล่อยออกมา
แต่ถึงตอนนี้รายงานชิ้นนี้ของเอ็นบีซีเปิดโปงว่า คำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นเพียงข้อมูลที่พวกสายลับอเมริกันกุขึ้นเท่านั้น
รายงานของเอ็นบีซีอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งซึ่งอธิบายว่า ข่าวกรองไม่จำเป็นต้องน่าเชื่อถือทั้งหมด เพราะสิ่งสำคัญกว่านั้นคือการปล่อยออกมาตัดหน้าก่อนที่รัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปูติน จะลงมือทำสิ่งนั้น
แต่ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ซึ่งรายงานของเอ็นบีซีชิ้นนี้อ้างอิงพากันยอมรับว่าข้อกล่าวอ้างต่างๆ ของพวกเขาอย่างน้อยที่สุดก็มีการขยายให้เกินเลยความเป็นจริงนั้น ยังคงมีเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ ออกมาตอบโต้รายงานนี้ของเอ็นบีซีทันควันโดยยืนยันว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติและประชาคมข่าวกรองของอเมริกาตรวจยืนยันรับรองคุณภาพของข้อมูลทุกอย่างที่เผยแพร่ออกสู่สาธารณะ
หนึ่งในผู้จัดทำรายงานชิ้นนี้ของเอ็นบีซี ได้แก่ เคน ดิลาเนียน ซึ่ง อาร์ที ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เขาเป็นผู้สื่อข่าวด้านความมั่นคงแห่งชาติที่เคยถูกเปิดโปงเมื่อปี 2014 ว่า มีความสัมพันธ์ “เชิงร่วมมือ” กับสำนักงานข่าวกรองกลางของอเมริกา (ซีไอเอ) ส่งผลให้เขาถูกนายจ้างในขณะนั้นคือ ลอสแองเจลิส ไทมส์ ปฏิเสธให้การสนับสนุน
(ดูเพิ่มเติมข่าวนี้ของอาร์ทีในภาคภาษาอังกฤษได้ที่ https://www.rt.com/russia/553428-spies-fake-news-ukraine-nbc/ และดูรายงานข่าวของเอ็นบีซีนิวส์ได้ที่ https://www.nbcnews.com/politics/national-security/us-using-declassified-intel-fight-info-war-russia-even-intel-isnt-rock-rcna23014)
(ที่มา : อาร์ที, เอ็นบีซีนิวส์)