วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร โพสต์เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ระบุว่า แผ่นดินไหว ที่ ททบ.5 ภาคต่อ
“ผบ.ทบ” มีคำสั่งตั้ง ผอ.ททบ.5 คนใหม่ หลัง “บิ๊กตี๋” แสดงสปิริตลาออก ทำหนังสือถึง ผบ.ทบ.ขอพ้นหน้าที่ เอง ลั่นเปล่าโดนปลดมีผล 7 เม.ย.นี้
ตั้ง “บิ๊กเหน่ง”เพื่อน “บิ๊กบี้”อีกคนนั่งแทน ผลพวงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังมีคำสั่งห้าม ททบ.5 เสนอข่าวสงคราม ทำทีม Top News ขอถอนตัว
มีรายงานว่า พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์ แก้วแท้ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานบอร์ด ททบ.5 มีคำสั่งให้ พลเอก รังษี กิติญานทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 พ้นจากหน้าที่ โดยให้ พลโทวิสันติ สระศรีดา อดีตเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำหน้าที่แทน ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ พลโทวิสันติ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 22 ของ พลเอกณรงค์พันธ์ เช่นเดียวกับพลโทรังษี โดยพลโทวิสันติ จะทำหน้าที่แค่ 6 เดือน และจะเกษียณตุลาคม 2565
พลเอก รังษี กล่าวว่า การที่ พลเอกณรงค์พันธ์ มีคำสั่งแต่งตั้ง ผอ.ททบ.5 คนใหม่ ไม่ใช่การปลด แต่เพราะตนเองได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารบก เพื่อขอพ้นหน้าที่ ด้วยเหตุผลส่วนตัว
เมื่อถามว่าเป็นเพราะเรื่องถูกห้ามเสนอข่าวสงครามรัสเซียและยูเครน ใช่หรือไม่ พลเอก รังษี กล่าวว่า แล้วแต่สื่อจะวิเคราะห์
ส่วนการที่เมื่อวานนี้ ระบุว่า จะไม่ลาออกนั้นพลเอก รังษี ชี้แจงว่า เมื่อวานนี้ได้ส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารบก ขอพ้นหน้าที่ไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ จึงไม่กล้าพูด ว่า จะอนุมัติให้ลาออกหรือไม่ทำข่าวและรายการ ให้ ททบ.5
“จากนี้ ผมจะไม่พูดถึงคนอื่น แต่ขอยืนยันว่า ไม่ใช่การปลดผม เราต้องแฟร์กับ ผบ.ทบ. เขานะ เพราะผมทำหนังสือ ขอพ้นจากหน้าที่ เอง “ พลเอก รังษี ระบุ
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พลเอก รังษี ยกทีมไปคุยกับ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย พร้อมลงนามความร่วมมือในการเสนอข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซียกับยูเครน หวัง จะถ่วงดุลย์ การเสนอข่าวของสื่อในประเทศไทย ที่มักจะเสนอข่าวตามสื่ออเมริกันและสื่อตะวันตก จนกลายเป็นเหยื่อสงครามข่าวสาร และเกิดเฟคนิวส์ขึ้น
แต่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการเลือกข้าง และ ไม่เป็นกลาง สวนทางกับนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาในายกรัฐมนตรี และรัฐบาลที่ ประกาศต่อองค์การสหประชาชาติ ว่าจะเป็นกลาง
จนที่สุด พลเอก รังษี ต้องแก้เกมด้วยการไปเจรจากับเอกอัครราชทูตยูเครน ประจำประเทศไทยและทำความร่วมมือในการเสนอข่าวด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นกลาง ต่อทั้งรัสเซียและยูเครน
แต่ในระหว่างนั้น มีรายงานข่าวว่า ผู้ใหญ่ในรัฐบาล ไม่สบายใจ กับการเสนอข่าวของ ททบ.5 ซึ่งเป็นสื่อของกองทัพบก ซึ่งก็เป็นหน่วยงานของรัฐบาล จึงมีคำสั้งให้ ททบ.5 งดการเสนอข่าวสงครามรัสเซียและยูเครน
แต่เมื่อ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าในการเสนอข่าว ภาคเที่ยง ของ ททบ.5 วันนี้ มีการเสนอข่าวสงครามรัสเซียและยูเครน จึงทำให้ ททบ.5 ตัดสัญญาณการออกอากาศกลางครันทันที
จนเกิดความไม่พอใจ และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา จนเกิดข่าวว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทีมข่าว ใน ททบ.5 ทีมข่าว ท็อปนิวส์ จะถอนตัวออกในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ แบบกะทันหัน และตามมาด้วยการลาออกของ พลเอก รังษี พ้น ผอ.ททบ.5
“ผบ.ทบ” มีคำสั่งตั้ง ผอ.ททบ.5 คนใหม่ หลัง “บิ๊กตี๋” แสดงสปิริตลาออก ทำหนังสือถึง ผบ.ทบ.ขอพ้นหน้าที่ เอง ลั่นเปล่าโดนปลดมีผล 7 เม.ย.นี้
ตั้ง “บิ๊กเหน่ง”เพื่อน “บิ๊กบี้”อีกคนนั่งแทน ผลพวงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังมีคำสั่งห้าม ททบ.5 เสนอข่าวสงคราม ทำทีม Top News ขอถอนตัว
มีรายงานว่า พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์ แก้วแท้ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานบอร์ด ททบ.5 มีคำสั่งให้ พลเอก รังษี กิติญานทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 พ้นจากหน้าที่ โดยให้ พลโทวิสันติ สระศรีดา อดีตเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำหน้าที่แทน ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ พลโทวิสันติ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 22 ของ พลเอกณรงค์พันธ์ เช่นเดียวกับพลโทรังษี โดยพลโทวิสันติ จะทำหน้าที่แค่ 6 เดือน และจะเกษียณตุลาคม 2565
พลเอก รังษี กล่าวว่า การที่ พลเอกณรงค์พันธ์ มีคำสั่งแต่งตั้ง ผอ.ททบ.5 คนใหม่ ไม่ใช่การปลด แต่เพราะตนเองได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารบก เพื่อขอพ้นหน้าที่ ด้วยเหตุผลส่วนตัว
เมื่อถามว่าเป็นเพราะเรื่องถูกห้ามเสนอข่าวสงครามรัสเซียและยูเครน ใช่หรือไม่ พลเอก รังษี กล่าวว่า แล้วแต่สื่อจะวิเคราะห์
ส่วนการที่เมื่อวานนี้ ระบุว่า จะไม่ลาออกนั้นพลเอก รังษี ชี้แจงว่า เมื่อวานนี้ได้ส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารบก ขอพ้นหน้าที่ไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ จึงไม่กล้าพูด ว่า จะอนุมัติให้ลาออกหรือไม่ทำข่าวและรายการ ให้ ททบ.5
“จากนี้ ผมจะไม่พูดถึงคนอื่น แต่ขอยืนยันว่า ไม่ใช่การปลดผม เราต้องแฟร์กับ ผบ.ทบ. เขานะ เพราะผมทำหนังสือ ขอพ้นจากหน้าที่ เอง “ พลเอก รังษี ระบุ
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พลเอก รังษี ยกทีมไปคุยกับ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย พร้อมลงนามความร่วมมือในการเสนอข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซียกับยูเครน หวัง จะถ่วงดุลย์ การเสนอข่าวของสื่อในประเทศไทย ที่มักจะเสนอข่าวตามสื่ออเมริกันและสื่อตะวันตก จนกลายเป็นเหยื่อสงครามข่าวสาร และเกิดเฟคนิวส์ขึ้น
แต่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการเลือกข้าง และ ไม่เป็นกลาง สวนทางกับนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาในายกรัฐมนตรี และรัฐบาลที่ ประกาศต่อองค์การสหประชาชาติ ว่าจะเป็นกลาง
จนที่สุด พลเอก รังษี ต้องแก้เกมด้วยการไปเจรจากับเอกอัครราชทูตยูเครน ประจำประเทศไทยและทำความร่วมมือในการเสนอข่าวด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นกลาง ต่อทั้งรัสเซียและยูเครน
แต่ในระหว่างนั้น มีรายงานข่าวว่า ผู้ใหญ่ในรัฐบาล ไม่สบายใจ กับการเสนอข่าวของ ททบ.5 ซึ่งเป็นสื่อของกองทัพบก ซึ่งก็เป็นหน่วยงานของรัฐบาล จึงมีคำสั้งให้ ททบ.5 งดการเสนอข่าวสงครามรัสเซียและยูเครน
แต่เมื่อ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าในการเสนอข่าว ภาคเที่ยง ของ ททบ.5 วันนี้ มีการเสนอข่าวสงครามรัสเซียและยูเครน จึงทำให้ ททบ.5 ตัดสัญญาณการออกอากาศกลางครันทันที
จนเกิดความไม่พอใจ และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา จนเกิดข่าวว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทีมข่าว ใน ททบ.5 ทีมข่าว ท็อปนิวส์ จะถอนตัวออกในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ แบบกะทันหัน และตามมาด้วยการลาออกของ พลเอก รังษี พ้น ผอ.ททบ.5