ราคาน้ำมันฟื้นคืนราว 3% ในวันพุธ (30 มี.ค.) จากคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ ที่บ่งชี้อุปทานตึงตัว และความกังวลตะวันตกกำหนดมาตรการรอบใหม่เล่นงานกองกำลังรัสเซีย ปัจจัยนี้ฉุดวอลล์สตรีทปิดลบ และดันทองคำขยับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 113.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯ พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลงถึง 3.4 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมาย ทำให้คลังน้ำมันดิบสำรองเหลือเพียง 410 ล้านบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่กันยายน 2018
นักลงทุนมีความกังวลว่าตะวันตกอาจกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย เนื่องจากคำสัญญาของมอสโกในวันอังคาร (29 มี.ค.) ว่าจะลดระดับปฏิบัติการต่างๆ รอบกรุงเคียฟนั้น ดูเหมือนอาจเป็นอุบายสำหรับจัดทัพใหม่ของผู้รุกรานที่ประสบความสูญเสียอย่างหนัก หลังจากพวกเขายังคงเดินหน้าโจมตีเมืองหลวงของยูเครนอย่างต่อเนื่อง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (30 มี.ค.) ปิดลบ ดาวโจนส์และเอสแอนด์พีขยับลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน จากสัญญาณที่ถดถอยลงของความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซีย และแนวโน้มเฟดใช้แนวทางเชิงรุกมากขึ้นในการควบคุมเศรษฐกิจ
ดาวโจนส์ ลดลง 65.38 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,228.81 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 29.15 จุด (0.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,602.45 จุด แนสแดค ลดลง 177.36 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,442.28 จุด
กองกำลังรัสเซียทิ้งบอมบ์ถล่มบริเวณรอบนอกกรุงเคียฟ และเมืองแห่งหนึ่งที่ถูกปิดล้อมทางเหนือของยูเครน หนึ่งวันหลังสัญญาว่าจะลดระดับปฏิบัติการต่างๆ ลง
ท่ามกลางเงินเฟ้อที่หนักหน่วงขึ้น มีการคาดเดาว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจใช้แนวทางเชิงรุกมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลกับเศรษฐกิจ
ความกังวลเกี่ยวกับการผิดคำสัญญาของรัสเซียเกี่ยวกับการลดระดับปฏิบัติการทหาร และแนวโน้มเคลื่อนไหวในเชิงรุกมากขึ้นของเฟด ผลักนักลงทุนหันหาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันพุธ (30 มี.ค.) ปิดบวก โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 21.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,939.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)