สัญญาณดี! สื่อลือรัสเซียถอนเงื่อนไขปลดอาวุธ-กำจัดนาซี ในการเจรจาสันติภาพกับยูเครน

รัสเซียไม่มีข้อเรียกร้องกำจัดนาซีและปลดอาวุธยูเครน และเตรียมปล่อยให้เคียฟเข้าร่วมอียู หากพวกเขาคงสถานะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในทางทหาร ส่วนหนึ่งในการเจรจาหยุดยิงที่กำลังดำเนินการอยู่ ตามรายงานของไฟแนนเชียลไทม์ส สื่อมวลชนอังกฤษ ในวันจันทร์ (28 มี.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าว 4 คนที่ได้รับฟังสรุปเกี่ยวกับการพูดคุยหารือดังกล่าว

มอสโกและเคียฟกำลังหารือระงับความเป็นปรปักษ์ ส่วนหนึ่งในความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงหนึ่งๆ ซึ่งยูเครนอาจละทิ้งความทะเยอทะยานเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ แลกกับคำรับประกันความปลอดภัยและโอกาสเข้าร่วมกับอียู สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม เนื่องจากประเด็นนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป

บุคคลที่เป็นแหล่งข่าวเปิดเผยกับไฟแนนเชียลไทม์สต่อว่า ในร่างเอกสารหยุดยิงไม่ได้มีเนื้อหาการสนทนาใดๆ เกี่ยวกับข้อเรียกร้องหลักต่างๆ ในเบื้องต้นของรัสเซีย ทั้งกำจัดนาซี ปลดอาวุธ และปกป้องทางกฎหมายพลเรือนพูดภาษารัสเซียในยูเครน

ผู้แทนทูตจาก 2 ฝ่ายเตรียมพบปะกันในอิสตันบูล ประเทศตุรกี ในวันอังคาร (29 มี.ค.) ในการเจรจาสันติภาพรอบ 4 ที่ออกแบบมาเพื่อหยุดปฏิบัติการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และข่าวลือเกี่ยวกับการอ่อนข้อของฝ่ายรัสเซีย มีขึ้นในขณะที่ปฏิบัติการจู่โจมภาคพื้นที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน ส่วนใหญ่แล้วประสบภาวะหยุดชะงัก ผลจากการต้านทานอย่างดุเดือดเกินคาดของยูเครน และข้อบกพร่องด้านปฏิบัติการต่างๆ ของรัสเซียเอง

อย่างไรก็ตาม ยูเครนและบรรดาผู้สนับสนุนจากตะวันตก แสดงความเคลือบแคลงต่อเจตนาของปูติน กังวลว่าประธานาธิบดีรัสเซียอาจกำลังใช้การเจรจานี้เป็นฉากควันอำพราง เสริมกำลังแก่กองกำลังที่อ่อนแรงของเขาและมีแผนโจมตีรอบใหม่

ดาวิด อาราคาเมีย หัวหน้าพรรคการเมืองของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในรัฐสภา และสมาชิกรายหนึ่งในคณะผู้แทนเจรจาของเคียฟ ให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียลไทม์ส ว่าทั้ง 2 ฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการรับประกันความปลอดภัยและข้อเสนอเข้าร่วมอียูของยูเครน แต่แนะนำให้ยังคงจับตาเกี่ยวกับแนวโน้มของการผ่าทางตันใดๆ

อย่างไรก็ตาม ไฟแนนเชียลไทม์ส อ้างบุคคลอีกรายที่ได้รับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับการเจรจา ระบุว่า ยูเครนมีความกังวลว่า รัสเซียกำลังเปลี่ยนจุดยืนในทุกวัน ทั้งในแง่กดดันทางการทหารและข้อเรียกร้องต่างๆ อย่างเช่นปลดอาวุธเคียฟ

"รัสเซียไม่อาจและไม่ต้องการพูดถึงความคืบหน้า เพราะมันรังแต่จะก่อความเสียหายต่อกระบวนการเจรจา" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของปูตินให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ในวันจันทร์ (28 มี.ค.) "สำหรับตอนนี้ เราไม่สามารถพูดถึงความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญและการผ่าทางตันใดๆ"

ส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่อยู่ภายใต้การพิจารณา ยูเครนเผยว่าจะละเว้นจากการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และไม่เปิดฐานทัพต้อนรับทหารต่างชาติ เพิ่มเติมจากการละทิ้งความพยายามหาทางเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต้

ในข้อแลกเปลี่ยนนั้น ยูเครนจะได้รับในสิ่งที่ อาราคาเมีย เรียกว่า ถ้อยคำที่ใกล้เคียงกับ "มาตรา 5 ของนาโต้" ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “การโจมตีสมาชิกประเทศใดประเทศหนึ่งจะถือเป็นการโจมตีประเทศสมาชิกโดยรวม” สำหรับคำรับประกันความปลอดภัยจากประเทศต่างๆ ในนั้นรวมถึงรัสเซีย สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี จีน อิตาลี โปแลนด์ อิสราเอล และตุรกี

อย่างไรก็ตาม ว่าที่ข้อตกลงใดๆ จำเป็นต้องได้รับความเห็นพ้องจากบรรดาผู้รับประกันและรัฐสภาของพวกเขา จากการเปิดเผยของเซเลนสกีเมื่อวันอาทิตย์ (27 มี.ค.) "ว่าที่พวกผู้รับประกันยังไม่เห็นพ้องคำยันความปลอดภัยของยูเครน" แหล่งข่าวเปิดเผยกับไฟแนนเชียลไทม์ส "แต่ขณะเดียวกัน จนถึงตอนนี้เรายังไม่มีเสียงปฏิเสธใดๆ"

เซเลนสกีเปิดเผยว่ายูเครนจะต้องนำข้อตกลงเข้าสู่การทำประชามติที่ใช้เวลานานหลายเดือน ก่อนดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญ กระบวนการที่อาจใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี "ประเด็นเดียวที่คลี่คลายคือรูปแบบคำรับประกันนานาชาติที่ยูเครนกำลังมองหา แต่เรายังคงจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากพวกผู้ค้ำประกัน มิเช่นนั้นข้อตกลงจะไม่เป็นผล"

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หากบรรลุข้อตกลงหยุดยิง เมื่อนั้นรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนและรัสเซีย จะพบปะกันเพื่อร่างเอกสารต่างๆ อีกส่วนหนึ่ง สำหรับทำให้การรับประกันด้านความปลอดภัยเสร็จสมบูรณ์ เช่นเดียวกับข้อตกลงต่างๆ เพิ่มเติมในประเด็นทางสังคม เช่น การปกป้องพลเรือนที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน

จากนั้นอาจตามด้วยความพยายามเตรียมการพบปะกันระหว่างปูติน กับเซเลนสกี แม้โฆษกของวังเครมลินระบุในวันจันทร์ (28 มี.ค.) ว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในการเตรียมพร้อมสำหรับการพบปะกันดังกล่าว

(ที่มา : ไฟแแนนเชียลไทม์ส)