ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนออกมาตำหนิองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ไม่ยอมประกาศ “เขตห้ามบิน” (no-fly zone) เหนือยูเครน ชี้เท่ากับปล่อยให้รัสเซียทิ้งระเบิดโจมตีและเข่นฆ่าชาวยูเครนได้ต่อไป
เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) นาโตได้ปฏิเสธคำขอของรัฐบาลเคียฟเรื่องการประกาศเขตห้ามบินเพื่อหยุดการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย แต่ได้เตือนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไปแล้วว่ารัสเซียจะเผชิญบทลงโทษทางเศรษฐกิจหนักหน่วงยิ่งกว่านี้ หากยังไม่รีบยุติสงคราม
“รู้ทั้งรู้ว่าการโจมตีทางอากาศและการบาดเจ็บล้มตายจะต้องเกิดขึ้น นาโตกลับตัดสินใจไม่ปิดน่านฟ้าเหนือยูเครน” เซเลนสกี กล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยทำเนียบประธานาธิบดี
“เราเชื่อว่ามีรัฐสมาชิกนาโตที่พยายามใช้ข้ออ้างว่า การประกาศเขตห้ามบินเหนือยูเครนอาจไปกระตุ้นให้รัสเซียเปิดศึกกับนาโตโดยตรง”
เยน สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ประกาศชัดเจนว่ากลุ่มพันธมิตร “ไม่ขอแทรกแซง” สงครามครั้งนี้ เพราะไม่ต้องการปะทะกับมอสโกโดยตรง ซึ่งอาจจะทำให้ความขัดแย้งลุกลามเป็นวงกว้าง
“วิธีเดียวที่จะประกาศเขตห้ามบินได้ก็คือ ต้องส่งฝูงบินขับไล่ของนาโตเข้าไปในน่านฟ้ายูเครน จากนั้นก็ยิงเครื่องบินรัสเซียให้ตก” สโตลเตนเบิร์ก อธิบาย “แต่หากเราทำเช่นนั้น สถานการณ์อาจจะบานปลายจนกลายเป็นสงครามเต็มขั้นทั่วยุโรป ซึ่งพัวพันถึงหลายประเทศ และจะมีประชากรที่ได้รับความทุกข์ทรมานอีกมากมายหลายเท่า”
อย่างไรก็ดี เซเลนสกี ยังคงไม่สบอารมณ์กับจุดยืนของพันธมิตร และวิจารณ์การประชุมของนาโตว่าเป็น “ซัมมิตที่อ่อนแอและสับสน”
“นับจากวันนี้ ประชาชนที่เสียชีวิตก็เพราะพวกคุณเป็นต้นเหตุด้วย เพราะพวกคุณอ่อนแอ และไม่ร่วมมือร่วมใจกัน...วันนี้ผู้นำนาโตกำลังเปิดไฟเขียวให้มีการทิ้งบอมบ์ใส่เมืองและหมู่บ้านต่างๆ ของยูเครนด้วยการปฏิเสธที่จะบังคับใช้เขตห้ามบิน”
ที่มา : เอเอฟพี