จากกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีประเทศมากกว่า 10 ประเทศ ได้ร้องขอให้พลเมืองของตนเองเดินทางออกจากยูเครน ท่ามกลางความวิตกกังวลและการเตือนจากชาติตะวันตกว่ารัสเซียอาจรุกรานยูเครนในเร็วๆ นี้
สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย อิตาลี อิสราเอล เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และเยอรมนี เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประเทศที่ร้องขอให้พลเมืองของตนเองเดินทางออกจากยูเครน ขณะที่อีกหลายประเทศได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตของตนเองที่ไม่จำเป็นเดินทางออกจากยูเครนแล้วเช่นกัน
แคนาดาได้สั่งการให้มีการย้ายเจ้าหน้าที่ไปยังเมืองลวิว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพรมแดนของประเทศโปแลนด์ ขณะที่อังกฤษได้ระงับการให้บริการด้านกงสุลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยเจ้าหน้าที่กงสุลจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ จะประจำการอยู่ที่เมืองลวิว เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น
ด้านทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา เตือนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียว่า สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรจะทำการตอบโต้อย่างเด็ดขาด หากรัสเซียรุกรานยูเครน ขณะที่โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียตอบโต้ทันควันว่า ไม่มีคำตอบใดๆ ที่เป็นสาระในประเด็นซึ่งเป็นข้อห่วงกังวลหลักของรัสเซีย
ทั้งนี้ ไบเดนและปูตินได้หารือกันราว 1 ชั่วโมง ในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ซึ่งไบเดนได้ย้ำว่า หากรัสเซียรุกรานยูเครนก็จะทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง และทำให้สถานะของรัสเซียย่ำแย่ลง
ขณะที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ออกประกาศลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวความตึงเครียดบริเวณชายแดนยูเครนนั้น กรมการกงสุลขอแนะนำคนไทย ดังนี้
- ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยูเครนในระยะเวลานี้
- ผู้ที่พำนักอยู่ในยูเครน ขอให้ติดตามสถานการณ์ ข่าวสารอย่างใกล้ชิด
หากต้องการขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ (สาธารณรัฐโปแลนด์) ได้ที่หมายเลขฉุกเฉิน โทร +48-696-642-348 ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ thaiconsularwarsaw@thaiemb.pl