ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องในวันพุธ (2 มี.ค.) เหตุผู้ซื้อพากันไม่แตะต้องปิโตรเลียมส่งออกของรัสเซีย หลังมอสโกถูกคว่ำบาตรต่อกรณีรุกรานยูเครน อย่างไรก็ตามแนวโน้มการเจรจาสงบศึกรอบใหม่ระหว่างคู่ขัดแย้งฉุดทองคำปรับลด ขณะที่วอลล์สตรีทปรับขึ้น เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยแค่เล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 7.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 7.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.93 ดอลลาร์
แม้ในข้อเท็จจริงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียไม่ตัดทอนพลังงาน จำกัดการเข้าถึงระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ SWIFT ในด้านพลังงาน และแบนการส่งออก แต่บรรดาผู้ผลิตรัสเซียไม่สามารถขายสินค้าของพวกเขาได้เนื่องจากไม่มีใครยื่นข้อเสนอซื้อ ขณะที่โรงกลั่นหลายแห่ง โดยเฉพาะในยุโรปไม่สนใจน้ำมันดิบของรัสเซียและกำลังหันไปทางแหล่งน้ำมันทางเลือกอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การเจรจาสงบศึกรอบใหม่ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่มีแนวโน้มกลับมาจัดขึ้นอีกครั้ง ฉุดให้ราคาทองคำในวันพุธ (2 มี.ค.) ขยับลงจากระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 21.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,922.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (2 มี.ค.) ปลีกตัวออกจากวิกฤตยูเครน ขยับขึ้นเล็กน้อย หลัง เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักลงทุนกังวล
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 596.40 จุด (1.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,891.35 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 80.28 จุด (1.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,386.54 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 219.56 จุด (1.62 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,752.02 จุด
ความเห็นของ พาวเวล ระหว่างเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุน หลังปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ก่อความหวั่นวิตกอย่างหนักในตลาดทุน
พาวเวล บอกว่าเขามีแนวโน้มสนับสนุนปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนมีนาคม ปัดเป่าความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกมากกว่านี้
(ที่มา : รอยเตอร์)
