บรรดาบริษัทชื่อดังของสหรัฐฯ บางแห่ง ในนั้นรวมถึงแอปเปิล กูเกิล ฟอร์ด และฮาร์เลย์-เดวิดสัน เรียงหน้าออกมาตำหนิและไม่ยอมรับการยกพลรุกรานยูเครนของรัสเซีย ภายใต้แรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุน และเหล่าผู้บริโภคที่คร่ำครวญโวยวายต่อสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครน
แอปเปิล อิงค์ เปิดเผยในช่วงค่ำวันอังคาร (1 มี.ค.) ว่าได้หยุดขายไอโฟนและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในรัสเซีย พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า กำลังเปลี่ยนแปลงแก้แอปพลิเคชัน Maps ของพวกเขา เพื่อปกป้องพลเรือนในยูเครน
อัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล ได้ถอนบรรดาสื่อมวลชนแห่งรัฐของรัสเซียออกจากข่าวของพวกเขา และฟอร์ด มอเตอร์ ร่วมด้วยเหล่าบริษัทกิจการร่วมค้า 3 แห่งในรัสเซีย เผยว่าพันธมิตรผู้ผลิตในรัสเซียของพวกเขากำลังระงับปฏิบัติการในประเทศแห่งนี้ ขณะที่มอเตอร์ไซเคิล ผู้ผลิตฮาเลย์-เดวิดสัน ได้ระงับการส่งออกรถจักรยานยนต์
บริษัทมากมายหลายแห่งออกมาประณามรัสเซียอย่างโจ่งแจ้งแบบที่ไม่เคยพบเห็นบ่อยนัก "เรามีความกังวลอย่างสุดซึ้งเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชนที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ผลของเหตุความรุนแรง" แอปเปิลระบุในถ้อยแถลงระงับการขายในรัสเซีย
ทั้งนี้ บริษัทต่างๆ ได้ออกมาแสดงจุดยืนกันมากขึ้น ในขณะที่เมืองต่างๆ ของยูเครนถูกโจมตีด้วยจรวดอย่างหนัก
"ฟอร์ดมีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการุกรานยูเครน และผลลัพธ์ที่คุกคามสันติภาพและเสถียรภาพ สถานการณ์กระตุ้นให้เราต้องประเมินทบทวนปฏิบัติการของเราในรัสเซียเสียใหม่" ฟอร์ดระบุ
ทวิตเตอร์ของผู้สื่อข่าวคนหนึ่งแห่งสำนักข่าว Politico ระบุว่า โบอิ้งระงับให้บริการด้านอะไหล่ บำรุงรักษาและสนับสนุนทางเทคนิค แก่สายการบินต่างๆ ของรัสเซีย นอกจากนี้ ผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติสหรัฐฯ แห่งนี้ยังระงับปฏิบัติการหลักๆ ในมอสโกและจะปิดสำนักงานในกรุงเคียฟเป็นการชั่วคราว
ข้อจำกัดต่างๆ ที่กำหนดโดยตะวันตก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัสเซียอย่างหนัก ด้วยค่าเงินรูเบิลแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 117 รูเบิลต่อดอลลาร์ จากระดับ 75 รูเบิลต่อดอลลาร์ ตอนก่อนหน้ารัสเซียรับรอง 2 เขตกบฏยูเครนในฐานะรัฐเอกราช
มาตรการโดดเดี่ยวทางการเงินที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ยังมาพร้อมกับความเคลื่อนไหวของบริษัทขนส่งสินค้าทั้งหลายที่บอกว่าพวกเขาจะไม่ให้บริการตามท่าเรือต่างๆ ของรัสเซีย
นอกจากนี้ บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างๆ นอกเหนือจากอัลฟาเบ็ท ได้เดินหน้าความพยายามหยุดกองกำลังรัสเซียจากการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเช่นกัน
เมตา (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการปิดกั้นการเข้าถึงบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของรัสเซีย ทูเดย์ (Russia Today) สื่อที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลเครมลิน และเพจสปุตนิก โดยจะไม่สามารถมองเห็นเพจดังกล่าวในยุโรป
นิค เคลกก์ ประธานฝ่ายกิจการระดับโลกของเมตา เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @nickclegg ถึงการตัดสินใจดังกล่าวว่าเมตาได้รับคำขอจากรัฐบาลในสหภาพยุโรป ให้ดำเนินการเพิ่มเติมเกี่ยวกับสื่อที่ควบคุมโดยรัฐบาลรัสเซีย "ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน จึงทำให้เมตาจำกัดการเข้าถึงเพจของสำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุตนิกทั่วทั้งทวีปยุโรป"
การดำเนินการในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การเข้าไปรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยในช่วง 1-2 วัน ก่อนหน้าที่เมตาจะปิดกั้นบัญชีของสปุตนิกและรัสเซีย ทูเดย์ เมตาเพิ่งดำเนินการปิดกั้นโฆษณาที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียออกจากแพลตฟอร์ม และข้อมูลข่าวปลอมเกี่ยวกับการบุกยูเครนในครั้งนี้
ขณะที่รัสเซียได้ดำเนินการตอบโต้ด้วยการปิดกั้นการใช้งานเฟซบุ๊กไปแล้วบางส่วน รวมถึงทวิตเตอร์ด้วย จากการที่รัสเซียต้องการให้เมตา หยุดการตรวจสอบข้อเท็จจริง และการติดป้ายกำกับเนื้อหาที่ถูกโพสต์โดยสื่อภายใต้การดำเนินการของรัฐบาลรัสเซีย แต่เมตาปฏิเสธคำร้องขอ
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเจนซี)