สาวรายหนึ่งเจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็น ปปง. โอนเงินให้ตรวจสอบทรัพย์สิน หมดไป 4 ล้าน เหตุเกิดเมื่อ 14 ก.พ. วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา โวยเดินเรื่องมา 3 วันไม่คืบ ถามใครคุ้มครองคนบริสุทธิ์ คนทำงานหาเช้ากินค่ำจริงๆ ได้บ้าง
วันนี้ (17 ก.พ.) ในโลกโซเชียลฯ มีการแชร์โพสต์จากเฟซบุ๊ก "Piraya Jittarwong" ที่โพสต์หลักฐานการโอนเงินไปยังบัญชีม้า ระบุว่า "ส่งเงินเพื่อตรวจสอบ ปปง." ก่อนจะรู้ภายหลังว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบุว่า "14 ก.พ. 65 แนทโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินหมดตัวจำนวน 4,016,000 บาท วิ่งเดินเรื่องมา 1-3 วันแล้ว!
เรื่องนิ่งเฉยต้องรอเป็นอาทิตย์ หรืออาจจะเป็นเดือนเพื่ออะไร (ให้คนร้ายหนีไปหลอกคนอื่นต่อ?)
ขอวอนหน่วยรัฐที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งตรวจสอบข้อมูลคนร้ายและรีบอายัดบัญชี เงินเข้า-ออกปลายทางทั้งหมดของผู้เกี่ยวข้อง
ในเมื่อมีเอกสาร หมายเรียกพยานเอกสาร ตราครุฑ, บันทึกประจำวัน, หลักฐานครบ!!
ยังต้องรออะไรกัน ทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือลูกค้าธนาคาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายไหนที่คุ้มครองคนบริสุทธิ์ คนทำงานหาเช้ากินค่ำได้จริงๆ บ้าง
คนเดือดร้อนเขาสูญเงินไม่น้อย ให้เราวิ่งส่งเอกสารไปมาเหมือนคนเป็นบ้า
ต้องร้องไห้กราบขออ้อนวอนเพื่ออะไร ในเมื่อหลักฐานชัดเจน มีหมายตราครุฑคดีอาญา ยังจะรอตรวจสอบอะไรอีก
รอส่งเอกสารตัวจริง (ส่งไปรษณีย์) ต้องรอหน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบ ส่งไปส่งมา เงินมันก็ลอยไปถึงไหนแล้ว
(ไม่แปลกใจทำไมถึงมีมิจฉาชีพประเทศไทยเยอะขนาดนี้)
เอาง่ายๆ แค่ร้องทุกข์ผ่านคอลเซ็นเตอร์ ธนาคารต่างๆ ยังรอสายเป็นชั่วโมง แล้วมันจะจับคนชั่วได้ยังไง
ประสบการณ์จริง จากที่วิ่งเต้นมา 1-3 วัน ได้เห็นระบบการทำงานที่ล่าช้า บอกเลยว่าคงไม่อยากมีเงินฝากกับธนาคารเป็นจำนวนเยอะๆ อีกแล้ว...
พื้นที่ที่คิดว่าปลอดภัย ฝากดูแลเงินเรา คิดว่าดูแลปกป้องเงินเราได้ดี (เข้าใจว่าโอนเอง)
แต่ถ้ามีสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในบัญชี
เช่น ลูกค้าคนนี้จู่ๆ โอนเยอะ หมดบัญชี
หรือมีบัญชีที่เงินโอนเข้าจำนวนเยอะๆ แล้วโอนออกภายในไม่กี่วินาที เงินในบัญชีเหลือหลักหน่วย (พวกบัญชีแก๊ง)
มันผิดปกติมากแล้ว ควรจะมีหน่วยงานมาช่วยตรวจสอบ สอบถามสิ่งที่เกิดขึ้นเรื่องนี้จริงๆ
ตั้งแต่จับไอ้พวกขายบัญชีไม่กี่บาท ถ้าไม่มี แก๊งมันก็ทำงานไม่ได้ วอนช่วยเร่งตรวจจับ อย่าปล่อยจนประเทศไทยไม่น่าอยู่อีกต่อไป
หลอกลวงต้มตุ๋น วนเวียนใกล้ตัว แล้วไม่รู้ว่าใครจะเผลอเข้าสู่วงจรมันอีก
อยากจะฝากเตือนเพื่อนๆ ช่วงนี้แก๊งมันระบาดไปทั่วประเทศ ไม่รู้มันจะมารูปแบบไหน เงินทั้งชีวิตของใครจะต้องตกเป็นของแก๊งพวกนี้อีก ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครแล้ว กินข้าวทั้งน้ำตามาหลายมื้อ ยืนก็ร้อง นั่งก็ร้อง เข้าใจความรู้สึกสูญเสียมันฆ่าชีวิตคนบริสุทธิ์ได้เลย (ขอความเห็นใจอย่าด่าซ้ำเติม เรื่องที่มันผิดพลาดไปแล้ว)
ไม่มีเจตนาพาดพิงถึงใคร ประชาชนคนหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือ
ปล. ฝากแชร์เตือนภัยให้ทุกคนได้ระวังตัว มีสติ อย่าทำอะไรแบบรีบร้อน ตัดสินใจเอง"
อ่านโพสต์ คลิกที่นี่
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้โทรศัพท์ไปหลอกลวงผู้เสียหาย โดยแอบอ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งสินค้าหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น ตำรวจ สำนักงาน ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศาล อัยการ หลอกผู้เสียหายให้หลงเชื่อว่าทำผิดกฎหมาย หรือหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อทำนองว่าส่งของผิดกฎหมาย ติดค้างอยู่ด่านศุลกากร ก่อนออกอุบายให้โอนเงินให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยอ้างว่าหากส่งให้ตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดจะโอนเงินคืนให้
กลุ่มมิจฉาชีพมักกระทำการเป็นขบวนการ มีการปลอมแปลงเอกสารซึ่งอ้างว่าเป็นคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม เรื่อง การส่งทรัพย์สินเข้าตรวจสอบที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีการใช้ตราสัญลักษณ์ (โลโก้) ของสำนักงาน ปปง. และปลอมลายมือชื่อบนเอกสารดังกล่าว เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นขณะที่คุยกับผู้เสียหาย จะแสดงทีท่าว่ามีการโอนสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้ผู้เสียหาย และเมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้จะติดต่อไม่ได้อีกเลย การกระทำความผิดในลักษณะแบบนี้ มิจฉาชีพมักใช้โทรศัพท์และแอปพลิเคชันไลน์ (Line) เป็นเครื่องมือในการดำเนินการ และใช้รูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ใช้บัญชีรับโอนเงินของผู้อื่นหรือผู้รับจ้างเปิดบัญชี เพื่อป้องกันการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ โดยพบผู้เสียหายจำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักล้านบาท
สำนักงาน ปปง.ไม่เคยมีการออกเอกสารในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด จึงขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด อาจเสียเงินฟรี นอกจากนี้ สำนักงาน ปปง. ขอเตือนผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีและยอมให้ใช้บัญชีธนาคาร หากมีการนำบัญชีไปใช้ในการกระทำความผิดที่เข้าข่ายเป็นการฟอกเงิน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการให้ความร่วมมือกับมิจฉาชีพด้วยวิธีการรับจ้างเปิดบัญชี โดยสำนักงาน ปปง.จะตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์จนนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในที่สุด และจะดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินต่อผู้ที่จ้างให้เปิดบัญชีและผู้รับจ้างเปิดบัญชีอย่างเด็ดขาดและถึงที่สุดเช่นกัน
ทั้งนี้ ความผิดฐานฟอกเงินนั้น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ปปง.มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชน จึงขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ หากมีข้อสงสัยหรือพบเห็นการกระทำความผิด ให้โทร.สอบถามหรือแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปปง. 1710