สหรัฐฯ ในวันพุธ (23 ก.พ.) ระบุว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย "พร้อมเท่าที่จะสามารถพร้อมได้" สำหรับรุกรานยูเครนเต็มรูแบบ โดยเวลานี้จัดวางกองกำลังทหารที่จำเป็นเกือบสมบูรณ์ 100% แล้ว ความเคลื่อนไหวที่โหมกระพือคำเตือนจากสหประชาชาติว่าการรุกรานเต็มรูปแบบใดๆ จะส่งกระทบเลวร้ายไปทั่วโลก
"เราประมินในวันนี้ ว่า เขามีทุกกองกำลังเกือบ 100% แล้ว สำหรับกองกำลังที่เราคาดหมายว่าเขาจะเคลื่อนพลเข้าไป เขาขยับเข้าใกล้ 100% แล้ว" เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ รายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวโดยไม่ประสงค์เอ่ยนาม
เจ้าหน้าที่ระบุว่า 80% ของทหารรัสเซียประมาณ 150,000 นายขึ้นไป ซึ่งประจำการอยู่ตามแนวชายแดนยูเครน อยู่ในสถานะพร้อมแล้ว และสามารถกระจายกำลังออกไปในรูปแบบการโจมตีภายในรัศมีไม่กี่กิโลเมตรของแนวหน้า
"เขาพร้อมแล้วเท่าที่จะสามาถพร้อมได้" เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ "ไม่ว่าพวกเขาจะลงมือโจมตีจริงๆ หรือไม่ แต่เวลานี้พวกเขาสามารถเคลื่อนพลได้ทุกเวลา"
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุในวันอังคาร (22 ก.พ.) ว่าการรุกรานกำลังเริ่มขึ้น แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลยอมรับยังไม่มีหลักฐานใดๆ ว่ากองกำลังรัสเซียข้ามชายแดนเข้าไปยังยูเครน "เรายังคงไม่สามารถยืนยันได้ว่ากองกำลังรัสเซียเคลื่อนพลเข้าไปในพื้นที่ดอนบาส" เจ้าหน้าที่กลาโหมกล่าว
คำเตือนของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มีขึ้นในขณะที่สหประชาชาติประชุมกันในเรื่องเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนในวันพุธ (23 ก.พ) ซึ่งที่ประชุมได้รับฟังคำเตือนว่า การรุกรานเต็มรูปแบบของรัสเซียอาจส่งผลกระทบเลวร้ายต่อโลก มีความเป็นไปได้ว่ามันจะโหมกระพือวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหม่
ผู้แทนสหรัฐฯ บอกว่าสงครามอาจทำให้ประชาชนต้องไร้ถิ่นฐานสูงสุดมากถึง 5 ล้านคน ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนกล่าวว่าความขัดแย้งนี้จะกลายเป็นจุดจบของ "ระเบียบโลก"
เสียงเตือนเลวร้ายนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติประจำปี ในประเด็น "การยึดครองชั่วคราวดินแดนยูเครน" ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนิวยอร์กมาทุกๆ ปี นับตั้งแต่รัสเซียผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เตือนองค์กรแห่งนี้ว่า "โลกของเรากำลังเผชิญกับช่วงเวลาอันตรายจากวิกฤต หากความขัดแย้งในยูเครนลุกลาม โลกอาจได้เห็นความขาดแคลนในขอบเขตและความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมานานหลายปี"
"นี่คือช่วงเวลาแห่งความอดทนอดกลั้น มีเหตุผลและลดความตึงเครียด" กูเตอร์เรส กล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าไม่มีที่ว่างสำหรับพฤติกรรมหรือถ้อยแถลงใดๆ "ที่จะนำพาสถานการณ์อันตรายนี้มุ่งหน้าสู่เหวนรก"
ในขณะที่มีความกังวลจากยูเครนและตะวันตกเกี่ยวกับการโจมตีเต็มรูปแบบของรัสเซีย แต่ฝ่ายพวกผู้นำกบฏแบ่งแยกดินแดนในเขตโดเนตสก์และลูฮันสต์ ได้ส่งหนังสือถึงประธานาธิบดีปูติน ร้องขอให้เขาช่วยปัดเป่าการรุกรานของยูเครนเช่นกัน
หนังสือ 2 ฉบับถูกเผยแพร่โดยสื่อมวลชนรัสเซียและต่างลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์
คำร้องขอของพวกเขามีขึ้นหลังจาก ปูติน ให้การรับรองเอกราชของทั้ง 2 เขต และลงนามในสนธิสัญญาความเป็นพันธมิตรต่างๆ ในนั้นรวมถึงความตกลงด้านกลาโหม
ความเคลื่อนไหวนี้มขึ้นหลังจากในวันอังคาร (22 ก.พ.) สมาชิกรัฐสภารัสเซียไฟเขียวให้กำลังพลของประเทศประจำการในต่างแดนได้ ตามคำร้องขอจาก ปูติน และในวันพุธ (23 ก.พ.) ยูเครนสั่งระดมกำลังสำรอง ส่งผลให้ยุโรปตะวันออกขยับเข้าใกล้ความขัดแย้งครั้งหายนะเข้าไปทุกขณะ
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)