นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แห่งแคนาดา ในวันจันทร์ (14 ก.พ.) ประกาศใช้อำนาจฉุกเฉิน ซึ่งใช้ไม่บ่อยครั้งนัก ในความพยายามยุติการประท้วงต่อต้านกฎระเบียบด้านสาธารณสุขสกัดโควิด-19 ที่นำโดยสิงห์รถบรรทุก หลังจากตำรวจจับกุมผู้ชุมนุม 11 คนพร้อมอาวุธปืนที่ซุกซ่อนไว้ ขณะกำลังปิดจุดผ่านแดนแห่งหนึ่งติดกับสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นเพียงครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์แคนาดา ที่มีการประกาศใช้อำนาจฉุกเฉินดังกล่าวในช่วงปลอดสงคราม และมีขึ้นในขณะที่รถบรรทุกหลายร้อยคันยังคงจอดปิดถนนสายต่างๆ ในกรุงออตตาวา เมืองหลวงของประเทศ เช่นเดียวกับจุดผ่านแดนอีก 2 แห่ง
"รัฐบาลกลางประกาศใช้กฎหมายฉุกเฉินเพื่อมอบศักยภาพแก่รัฐและดินแดนต่างๆ ในการจัดการกับการปิดกั้นถนนและบุกยึดสถานที่ต่างๆ" ทรูโดกล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมเผยว่าในขั้นนี้จะยังไม่ประจำการทหาร แต่เจ้าหน้าที่จะมีอำนาจมากขึ้นในการจับกุมผู้ประท้วงและยึดรถบรรทุกของพวกเขา เพื่อเคลียร์ท้องถนนที่ถูกปิดกั้น เช่นเดียวกับห้ามมอบเงินสนับสนุนการชุมนุม
ในขณะที่แนวโน้มเกิดสถานการณ์รุนแรงยังคงมีอยู่ ตำรวจรัฐบาลกลางได้จับกุมผู้ประท้วง 11 คน พร้อมไรเฟิล ปืนสั้น เสื้อเกราะกันกระสุนและกระสุนจำนวนมาก บริเวณชายแดนระหว่างเมืองเคาท์ส รัฐแอลเบอร์ตาและเมืองสวีท กราสส์ รัฐมอนแทนา เพียง 1 วันหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถแคลียร์จุดผ่านแดนหลักระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดาอีกแห่งในรัฐออนแทรีโอ
"ทางกลุ่มบอกว่ามีความตั้งใจใช้กำลังกับตำรวจ หากมีความพยายามสลายการปิดกั้นถนน" ตำรวจแคนาดาระบุในถ้อยแถลง
การประท้วงที่นำโดยบรรดาคนขับรถบรรทุกและพวกผู้สนับสนุนของเขา ต่อต้านบังคับฉีดและข้อจำกัดสกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โหมกระพือความเคลื่อนไหวเลียนแบบในหลายประเทศ ไล่ตั้งแต่ฝรั่งเศสจนถึงนิวซีแลนด์ ขณะที่พวกคนขับรถบรรทุกในสหรัฐฯ ก็กำลังพิจารณาจัดการชุมนุมแบบเดียวกัน
ภายใต้แรงกดดันให้ต้องลงมือ ทรูโดในวันอาทิตย์ (13 ก.พ.) เรียกประชุมคณะตอบสนองพิเศษของรัฐบาลกลาง ในความพยายามหาทางยุติการบุกยึดกรุงออตตาวาและปิดกั้นจุดผ่านแดนทั้งหลายที่ยังเหลืออยู่ ในนั้นรวมถึงที่อัลเบอร์ตาและมานิโตบา ซึ่งก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจอย่างมหาศาล
ก่อนหน้านี้กฎหมายฉุกเฉินเคยถูกประกาศใช้โดยอดีตนายกรัฐมนตรีปิแอร์ ทรูโด บิดาของจัสติน ทรูโด ระหว่างวิกฤตเดือนตุลาคมปี 1970
ในคราวนั้น พบเห็นทหารถูกส่งไปยังเมืองควิเบกเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หลังจากพวกนักรบแบ่งแยกดินแดนก่อเหตุลักพาตัวผู้ช่วยทูตฝ่ายการค้าของสหราชอาณาจักรรายหนึ่ง และปิแอร์ ลาปอร์ต รัฐมนตรีเมืองควิเบก ซึ่งถูกพบในสภาพถูกรัดคอเสียชีวิตในกระโปรงหลังของรถคันหนึ่ง
กลุ่มผู้ประท้วงในแคนาดาที่เรียกตัวเองว่า “ฟรีดอม คอนวอย” เริ่มต้นจากการที่พวกคนขับรถบรรทุกชุมนุมต่อต้านคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนสำหรับข้ามชายแดนสหรัฐฯ แต่เวลานี้ข้อเรียกร้องของพวกเขารวมไปถึงยุติมาตรการสาธารณสุขสกัดโควิด-19 ทั้งหมด นอกจากนี้ พวกผู้ประท้วงหลายคนยังต้องการโค่นล้มรัฐบาลเสรีนิยมของทรูโด เพียง 5 เดือน หลังเขาชนะเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย
ในกรุงปารีสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและประกาศปรับเงินหลายร้อยคน ในความพยายามสลายขบวนรถที่กำลังแล่นมาจากทั่วทุกมุมของฝรั่งเศส
เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย ก็พบเห็นความเคลื่อนไหวลอกเลียนแบบเช่นกัน และเจ้าหน้าที่เบลเยียมเปิดเผยในวันจันทร์ (14 ก.พ.) ว่าสามารถสกัดรถ 30 คัน ในขณะที่ตำรวจพยายามหยุดขบวนรถของพวกผู้ประท้วง
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจเข้าเคลียร์พวกผู้ประท้วงที่ปิดกั้นสะพานแอมบาสซาเดอร์ ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงสินค้ามูลค่าราว 360 ล้านดอลลาร์ต่อวันในการขนส่งสินค้าแบบสองทาง หรือคิดเป็น 25% ของมูลค่าการค้าขายสินค้าทั้งหมดระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา ก่อความวุ่นวายแก่ภารธุรกิจทั้งหลายในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนเช้าวันจันทร์ (14 ก.พ.) ในออตตาวา พวกผู้ประท้วงยังคงปักหลักชุมนุมท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บ แม้มีคำขู่จำคุกและปรับเงินสูงสุดถึง 100,000 ดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 2.5 ล้านบาท)
ขณะเดียวกัน พวกชาวบ้านในเมืองหลวงเริ่มมีความรู้สึกผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ โดยบอกว่าการประท้วงทำให้พวกเขาเหมือนถูกขังอยู่ในบ้านของตนเอง ขณะที่ธุรกิจส่วนใหญ่ย่านกลางกรุงต้องปิดทำการ หรือไม่ก็แทบไม่มีลูกค้าเลย เนื่องจากเจ้าหน้าที่เตือนให้ประชาชนอยู่ห่างจากพื้นที่ชุมนุม
(ที่มา : เอเอฟพี)