จุดผ่านแดนทางบกที่พลุกพล่านที่สุดจากสหรัฐฯ สู่แคนาดา ยังคงถูกปิดกั้นในวันอังคาร (8 ก.พ.) หลังบรรดาคนขับรถบรรทุกแคนาดาจอดรถขวางทางมาตั้งแต่วันจันทร์ (7 ก.พ.) ในการประท้วงมาตรการควบคุมโรคระบาดใหญ่ของรัฐบาล
ตำรวจเมืองวินด์เซอร์ แคนาดา เขียนบนทวิตเตอร์ว่า เบื้องต้นการสัญจรถูกขัดขวางทั้งสองทาง ทว่าหลังจากนั้นทางเดินรถที่มุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ กลับมาสัญจรได้แล้ว
บรรดาคนขับรถบรรทุกที่เรียกร้องให้รัฐบาบกลางยกเลิกคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนสำหรับการสัญจรข้ามชายแดน ได้เริ่มปิดกั้นท้องถนนสายต่างๆ ในกรุงออตตาวา เมืองหลวงของแคนาดา มาตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม และนับตั้งแต่วันอาทิตย์ (6 ก.พ.) ตำรวจค่อยๆ กลับมาควบคุมสถานการณ์อย่างช้าๆ ยึดกระติกบรรจุน้ำมันได้หลายพันลิตร และเคลื่อนย้ายรถบรรทุกน้ำมันคันหนึ่งออกไป
สตีฟ เบลล์ รองผู้บัญชาการตำรวจออตตาวา บอกกับผู้สื่อข่าวในวันอังคาร (7 ก.พ.) ตำรวจได้จัดการทำให้ยานยนต์ขนาดใหญ่จำนวนมากที่เข้าร่วมปิดกั้นถนนเคลื่อนไหวไม่ได้ พร้อมเผยว่าราว 1 ใน 4 ของรถบรรทุก 418 คันที่รวมตัวกันย่านกลางกรุง มีเด็กอยู่ในรถด้วย และตำรวจมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ สุขอนามัยของเด็กๆ เหล่านั้น เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น เสียงดังและความเสี่ยงก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์
มาร์โค เมนเดซิโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะแห่งแคนาดา บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า เขากำลังติดต่อประสานงานกับนายกเทศมนตรีวินด์เซอร์ และ ส.ส.ท้องถิ่น เกี่ยวกับการปิดกั้นขวางทางบริเวณสะพานแอมบาสซาเดอร์ ที่เชื่อมระหว่างเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน สหรัฐฯ กับเมืองวินด์เซอร์ รัฐออนแทรีโอ แคนาดา
"เราจะเดินหน้าทำงานเพื่อที่เราจะสามารถทำให้ห่วงโซ่อุปทานที่กำลังข้ามสะพานแอมบาสซาเดอร์เดินหน้าได้ต่อไป เช่นเดียวกับวงล้อที่หมุนระบบเศรษฐกิจของเรา" เขากล่าว
การส่งออกไปยังสหรัฐฯ คิดเป็น 75% ของการส่งออกทั้งหมดของแคนาดา และปกติแล้วสะพานแห่งนี้ต้องรองรับรถบรรทุกสินค้าราวๆ 8,000 คันต่อวัน
เจน ซากี เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาวระบุว่า "มันชัดเจนว่าความวุ่นวายขยายวงกว้างขึ้นในขอบเขตที่เกินเลยไปกว่าผลของการบังคับฉีดวัคซีน แน่นอน เรากำลังติดต่อประสานงานกับฝ่ายแคนาดา เกี่ยวกับเหตุปิดกั้นจุดผ่านแดนครั้งนี้"
ประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของแคนาดาเรียกร้องให้ยุติปิดกั้นจุดผ่านแดนในทันที โดยบอกว่า "ความล่าช้ายืดเยื้อที่สะพานแอมบาสซาเดอร์ เสี่ยงก่อความปั่นป่วนแก่ผู้ผลิตยานยนต์ ซึ่งจ้างงานชาวแคนาดาหลายหมื่นคน"
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แห่งแคนาดา ปรากฏตัวต่อสาธารณะในวันจันทร์ (7 ก.พ.) เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ หลังติดเชื้อโควิด-19 เรียกร้องให้หยุดประท้วง จากนั้นในวันอังคาร (8 ก.พ.) เขาเน้นย้ำว่า "เรากำลังเดินหน้าทำตามวิทยาศาสตร์" ตอนที่ถูก แคนดิซ เบอร์เกน ผู้นำรักษาการของพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ถามในรัฐสภาว่าเขาจะทำตามคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์และยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ โดยเร็วหรือไม่
ทรูโด ประณามกลยุทธ์ของพวกผู้ประท้วง แต่สมาชิกพรรคลิเบอรัลของเขารายหนึ่ง แตกแถวเห็นต่างกับจุดยืนอันแข็งกร้าวของรัฐบาลในคำสั่งบังคับฉีดวัคซีน โดย โจเอล ไลท์บาวด์ เรียกร้องให้รัฐบาลถอยห่างจากความแตกแยกทางการเมืองและนำเสนอโรดแมปที่ชัดเจนสำหรับยกเลิกข้อจำกัดสกัดโรคระบาดใหญ่
ข้อเสนอของเขามีขึ้นในขณะที่บางรัฐเริ่มยกเลิกข้อจำกัดโควิด-19 อันเข้มงวด
ฟรองซัว เลโกลต์ มุขมนตรีแห่งรัฐควิเบก ในวันอังคาร (8 ก.พ.) แถลงกำลังกลับมาเปิดหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ธุรกิจ บาร์และกิจกรรมทางสังคมต่างๆ แบบค่อยเป็นค่อยไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม ขณะเดียวกัน ก็ยกเลิกข้อจำกัดที่กำหนดจำนวนแขกผู้มาเยือนของแต่ละบ้าน
เลโกลต์ บอกว่าการประท้วงของบรรดาคนขับรถบรรทุกในควิเบกเมื่อเร็วๆ นี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อแผนของเขา แต่ยอมรับว่าประชาชนบางส่วนในรัฐแห่งนี้ที่พูดภาษาฝรั่งเศส กำลังเหนื่อยหน่ายกับข้อจำกัดต่างๆ
สกอตต์ มัว มุขมนตรีรัฐซัสแคตเชวัน บอกว่าจะยกเลิกข้อบังคับแสดงบัตรรับรองการฉีดวัคซีน หรือแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ สำหรับธุรกิจต่างๆ สถานที่ทำงานและสถานที่สาธารณะอื่นๆ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์
(ที่มา : รอยเตอร์)