xs
xsm
sm
md
lg

ตร.แคนาดาขู่จับผู้ประท้วงปิดถนนต้านวัคซีน ขณะม็อบเลียนแบบในนิวซีแลนด์ก็ปะทะ จนท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รถบรรทุกจากสหรัฐฯ มุ่งหน้าข้ามพรมแดนไปแคนาดา ต้องติดกันเป็นแถวยาวเหยียดเมื่อวันพุธ (9 ก.พ.) ขณะอยู่บนเส้นทางข้ามสะพานบลูวอเตอร์บริดจ์ ในเมืองพอร์ตฮูรอน รัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นทางเบี่ยง ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางสัญจรตามปกติที่จะข้ามสะพานแอมบาสซาเดอร์บริดจ์ ซึ่งถูกปิดกั้นห้ามผ่านโดยพวกคนขับรถบรรทุกแคนาดาที่ประท้วงต่อต้านมาตรการสกัดโควิดของรัฐบาล
ตำรวจแคนาดาขู่จับกุมพวกคนขับรถบรรทุกที่ชุมนุมประท้วงมาหลายวันแล้วเพื่อต่อต้านกฎป้องกันโควิด-19 ด้วยการจอดรถปิดถนนในเมืองหลวงออตตาวา รวมทั้งขัดขวางการค้าข้ามพรมแดนกับอเมริกา โดยที่นายกฯ ทรูโด ประณามว่า “รับไม่ได้” กับการต่อต้านรัฐบาลในลักษณะนี้ พร้อมเตือนส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ในอีกซีกหนึ่งของโลก เมื่อวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) ตำรวจนิวซีแลนด์เข้าสลายการชุมนุมบริเวณรัฐสภาในกรุงเวลลิงตัน ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแคนาดา และจับกุมผู้ประท้วงไปกว่า 100 คน

นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ซึ่งเพิ่งผ่านการกักตัวเองเนื่องจากติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ประกาศในวันพุธ (9) ว่า การปิดถนนและประท้วงอย่างผิดกฎหมายของพวกคนขับรถบรรทุกเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ อีกทั้งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการผลิต และแคนาดาต้องทำทุกอย่างเพื่อยุติสถานการณ์นี้

วันเดียวกันนั้น เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ติดต่อกับหน่วยงานควบคุมชายแดนของแคนาดาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการปิดกั้นสะพานแอมบาสซาเดอร์ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างเมืองวินด์เซอร์ ในแคนาดากับเมืองดีทรอยต์ ของอเมริกา และถือเป็นระเบียงการค้าสำคัญที่สุดระหว่างประเทศทั้งสอง โดยในแต่ละวันมีผู้เดินทางผ่านกว่า 4,000 คน และมีรถบรรทุกเข้าออกซึ่งขนสินค้าคิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 323 ล้านดอลลาร์

ด้านหอการค้าและสมาคมอุตสาหกรรมของท้องที่หลายแห่งทั้งในแคนาดาและอเมริกา ออกคำแถลงร่วมเรียกร้องให้ผู้ประท้วงเปิดสะพาน โดยระบุว่า เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเพิ่งฟื้นจากผลกระทบของโรคระบาดใหญ่ จึงไม่สามารถยอมให้กลุ่มใดๆ บ่อนทำลายการค้าข้ามพรมแดนได้

นอกจากนั้น กลุ่มผู้ประท้วงยังไปปิดเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างรัฐแอลเบอร์ตา ของแคนาดา กับรัฐมอนแทนา ของสหรัฐฯมาหลายวันแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ การประท้วงของคนขับรถบรรทุกซึ่งใช้ชื่อว่า “ฟรีดอม คอนวอย” เริ่มต้นตั้งแต่เดือนที่แล้วทางภาคตะวันตกของแคนาดา เนื่องจากไม่พอใจข้อกำหนดที่บังคับให้คนขับรถบรรทุกต้องฉีดวัคซีน หรือตรวจโควิดและกักตัวเมื่อข้ามแดนระหว่างอเมริกากับแคนาดา และต่อมาได้ลุกลามกลายเป็นการเข้ายึดออตตาวา เมืองหลวงของประเทศ อีกทั้งจุดชนวนการประท้วงทั่วประเทศ แต่สิ่งที่ก่อให้เกิดความกังวลมากที่สุดคือการปิดกั้นเส้นทางระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ

ในวันพุธ ตำรวจกรุงออตตาวาเตือนผู้ประท้วงว่า อาจถูกตั้งข้อหาอาชญากรรมและยึดรถ หากยังคงปิดถนนอย่างผิดกฎหมายต่อไป

ด้านไบรอัน คิงสตัน ประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งแคนาดา ชี้ว่า การปิดสะพานแอมบาสซาเดอร์คุกคามต่อห่วงโซ่อุปทานที่เปราะบางอยู่แล้วและอยู่ภายใต้ความกดดันของการขาดแคลนชิ้นส่วนและสินค้าค้างส่งอันเนื่องมาจากวิกฤตโควิด

ขณะเจ้าหน้าที่แคนาดาระบุว่า พนักงานโรงงาน 5,000 คนในวินด์เซอร์ต้องกลับบ้านเมื่อเช้าวันอังคาร (8) เนื่องจากการปิดถนน และโรงงานประกอบรถหลายแห่งเตรียมปิดทำการ ขณะที่ดริว ดิลเคนส์ นายกเทศมนตรีเมืองวินด์เซอร์กังวลว่า การประท้วงจะส่งผลกระทบยาวนานต่อธุรกิจของแคนาดา

การประท้วงในแคนาดากลายเป็นต้นแบบการประท้วงในหลายประเทศ ตั้งแต่อเมริกา ฝรั่งเศส จนถึงนิวซีแลนด์

ที่นิวซีแลนด์นั้น เกิดการปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงต่อต้านวัคซีน ที่บริเวณรัฐสภาในเมืองหลวงเวลลิงตัน เมื่อวันพฤหัสฯ (10) โดยมีผู้ประท้วงถูกจับกุมกว่า 120 คน หลังจากตำรวจมีคำสั่งให้ผู้ประท้วงที่เข้าไปตั้งแคมป์หน้าอาคารรัฐสภามานาน 3 วันแล้ว สลายการชุมนุม

การประท้วงนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันอังคาร ในลักษณะเลียนแบบ “ฟรีดอม คอนวอย” ของคนขับรถบรรทุกในแคนาดา โดยใช้รถกึ่งรถพ่วง และรถบ้านหลายร้อยคันจอดปิดถนนหลายสายกลางกรุงเวลลิงตัน

รถหลายคันทยอยขับออกไปหลังประท้วงครบ 24 ชั่วโมง แต่ยังมีนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรงจำนวนมากประท้วงต่อโดยประกาศว่า จะปักหลักอยู่นานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ช่วงแรกๆ ทั้งตำรวจและทางการของเมืองไม่ได้เข้าไปยุ่งกับการประท้วง ทว่าเวลานี้สภาเมืองเวลลิงตันแจ้งว่า เจ้าหน้าที่เริ่มออกใบสั่งปรับรถที่จอดกีดขวางถนนแล้ว ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีแกรนต์ โรเบิร์ตสัน ระบุว่า ชาวกรุงเวลลิงตันเริ่มหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อยๆ และขอให้ตำรวจดำเนินการกับผู้ประท้วง รวมทั้งร้องเรียนว่า ถูกผู้ประท้วงด่าทอเรื่องสวมหน้ากากอนามัย นอกจากนั้นห้างร้านหลายแห่งใกล้รัฐสภายังปิดทำการหลังจากพนักงานถูกคุกคามเมื่อขอให้ลูกค้าแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนตามที่กฎหมายกำหนด

วันพฤหัสฯ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศให้ผู้ประท้วงยุติการชุมนุม โดยบอกว่า การประท้วงไม่ได้สะท้อนความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ และแม้ยอมรับว่า คนนิวซีแลนด์มีสิทธิประท้วง แต่ต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของคนอื่น

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น