ผู้โดยสารชายรายหนึ่งถูกจับกุม ตามคำกล่าวหาที่ว่าเขาลงมือข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่ง ในที่นั่งชั้นธุรกิจ (Business Class) บนเที่ยวบินที่มุ่งหน้าจากสหรัฐฯ สู่สหราชอาณาจักร
ว่ากันว่าผูัต้องสงสัยชาวอังกฤษรายนี้บังคับให้ผู้โดยสารหญิงมีเพศสัมพันธ์กับเขา ระหว่างที่คนอื่นๆ นอนหลับบนเที่ยวบินที่กำลังเดินทางจากท่าอากาศยานนวร์ก ในนิวเจอร์ซีย์ มุ่งหน้าสู่กรุงลอนดอน
เหยื่อคร่ำครวญเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส และลูกเรือรายงานเหตุการณ์นี้ต่อไปยังตำรวจ และไม่นานหลังจากเครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ ตอนเช้าวันจันทร์ (7 ก.พ.) ตำรวจได้ขึ้นไปบนเครื่องบินและทำการจับกุมผู้ชายวัย 40 ปีรายนี้ ฐานต้องสงสัยข่มขืนและพาตัวเขาลงจากเครื่องบิน
เจ้าหน้าที่พาตัวชายคนดังกล่าวไปควบคุมตัวที่สถานีตำรวจฮีทโธรว์ จากนั้นก็ดำเนินการถ่ายรูปหน้าตรง และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากน้ำลายของเขา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการค้นหาทางนิติเวชอย่างเต็มรูปแบบบริเวณห้องโดยสารหรู ที่พวกผู้โดยสายต้องจ่ายเงินคนละกว่า 3,000 ปอนด์ (ประมาณ 130,000 บาท) สำหรับตั๋วไปกลับ
ต่อมาชายรายนี้ได้รับการปล่อยตัวออกมา ระหว่างที่มีการสืบสวนเพิ่มเติม
ผู้โดยสารหญิง ซึ่งอายุ 40 ปี และเป็นชาวสหราชอาณาจักรเช่นกัน ถูกพาไปพบผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเหตุข่มขืน และให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ
เข้าใจว่าทั้งสองคนนั่งอยู่คนละแถวในชั้นธุรกิจ แต่สำหรับสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เรียกมันว่าเป็นชั้นเฟิร์สคลาสเช่นกัน แต่ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ได้พูดคุยและดื่มด้วยกันในพื้นที่ส่วนเลานจ์ของสนามบิน
แหล่งข่าวเผยว่า "ผู้หญิงรายนี้ให้ข้อมูลว่าเธอถูกข่มขืนโดยผู้โดยสารรายดังกล่าวระหว่างเที่ยวบิน ขณะที่คนอื่นๆ กำลังนอนหลับ เธอว้าวุ่นและแจ้งเรื่องให้ลูกเรือทราบ และลูกเรือรายงานทางวิทยุให้ตำรวจทราบ ตำรวจมารอตอนที่เครื่องบินลงจอด"
"ทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ดูเหมือนได้มีโอกาสพูดคุยกันและดื่มด้วยกันก่อนขึ้นเครื่อง และระหว่างอยู่บนเที่ยวบิน เธออ้างว่าจากนั้นเขาข่มขืนเธอ และบอกว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เจ็บปวดมาก"
"เจ้าหน้าที่ขึ้นไปบนเครื่องบินและควบคุมตัวเขา ก่อนพาตัวเขาลงไป ตำรวจจริงจังกับคำกล่าวหานี้ และเจ้าหน้าที่นิติเวชได้ดำเนินการตรวจสอบบนเครื่องบินอย่างละเอียด โดยเฉพาะในบริเวณที่อ้างว่าเหตุข่มขืนเกิดขึ้น" แหล่งข่าวระบุ
(ที่มา : เดอะซัน)