ราคาหุ้น “เมตา” บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กร่วงกว่า 25% ตอนเริ่มเปิดตลาดซื้อขายวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) หลังจากหล่นฮวบฮาบในคืนวันพุธ (2 ) ช่วงตลาดตามปกติปิดทำการไปแล้ว สืบเนื่องจากบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่แห่งนี้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 4 (ต.ค.-ธ.ค.) ปี 2021 ซึ่งปรากฏว่ากำไรต่ำกว่าคาด แถมจำนวนผู้ใช้รายวันยังลดลงเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ บริษัทแจงเป็นเพราะแอปเปิลเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว และการแย่งชิงลูกค้าดุเดือดเข้มข้นขึ้นจากคู่แข่งอย่างติ๊กต็อก
จำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้งานจริงรายวันทั่วโลกลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้เป็นครั้งแรก จาก 1,930,000 ล้านราย ลงมาอยู่ที่ 1,929,000 ล้านราย ถึงแม้การลดลงราว 1 ล้านรายเช่นนี้ถือเป็นอัตราส่วนไม่มากอะไร แต่ทำให้เกิดความกังวลกันว่านี่อาจเป็นสัญญาณแสดงถึงความชะงักงันของกิจการ
เดฟ เวห์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของเมตา แจงว่า ยอดผู้ใช้ที่ลดลงเป็นผลจากอุปสรรคหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงการเติบโตที่ไม่ได้สัดส่วนในเอเชีย-แปซิฟิกระหว่างวิกฤตโควิดโดยอยู่ในอัตราชะลอตัวลง ขณะที่ค่าบริการข้อมูลซึ่งส่งผ่านมือถือในอินเดียแพงขึ้น
นอกจากนั้น เมตายังบอกว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากการที่แอปเปิลเปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับระบบปฏิบัติการ ios ที่ใช้ในไอโฟน ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ กำหนดเป้าหมายและวัดผลโฆษณาบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมยากขึ้น นอกจากนั้น ยังเป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจมหภาค เช่น ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก
บริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ที่มีอายุ 18 ปีแห่งนี้ ซึ่งยังเผชิญความกดดันจากแพลตฟอร์มคู่แข่งอย่างติ๊กต็อก และยูทูบด้วยนั้น คาดว่ารายได้ในไตรมาสหน้าจะชะลอตัวเนื่องจากการแข่งขันแย่งชิงเวลาของผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงการมีส่วนร่วมไปสู่ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น วิดีโอสั้นที่รีลส์นำเสนอที่ทำรายได้ลดลง
ข่าวร้ายเหล่านี้ฉุดราคาหุ้นเมตาในช่วงซื้อขายนอกเวลาเมื่อคืนวันจันทร์ ร่วงลง 22% อยู่ที่ 250 ดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดหายไปทันที 200,000 ล้านดอลลาร์
แล้วเมื่อตลาดเปิดซื้อขายตามเวลาทำการในวันพฤหัสบดี (3) หุ้นตัวนี้ก็ดำดิ่งลงไป 25.6% ในช่วงเวลาไม่นานหลังเปิด
ก่อนหน้านี้ เมตา เจ้าของแพลตฟอร์มโฆษณาระบบดิจิทัลใหญ่ที่สุดอันดับ 2 รองจากกูเกิล เตือนไว้ก่อนแล้วว่าธุรกิจโฆษณาของบริษัทเผชิญความไม่แน่นอนรุนแรงในไตรมาส 4 ของปี 2021
เวห์เนอร์เปิดเผยกับนักวิเคราะห์ระหว่างการประชุมทางไกลผ่านจอภาพว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอปเปิลอาจส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการของแอปเปิลสามารถเลือกได้ว่า จะไม่อนุญาตให้แอปต่างๆ ติดตามกิจกรรมออนไลน์ของตน ส่งผลโดยตรงต่อผู้ลงโฆษณาที่พึ่งพิงข้อมูลดังกล่าวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และวิเคราะห์แนวโน้มในตลาด
เมตาคาดว่า รายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้จะอยู่ระหว่าง 27,000-29,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ที่ 30,150 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ รายได้ทั้งหมดของเมตาเพิ่มขึ้นเป็น 33,670 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่แล้ว จาก 28,070 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปี 2020 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 33,400 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 10,300 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากไตรมาสส่งท้ายปี 2020 ถึง 8%
มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) เมตา ระบุว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทมีความคืบหน้าในหลายส่วน เช่น รีลส์ และความจริงเสมือน และจะลงทุนในธุรกิจเหล่านี้รวมถึงธุรกิจสำคัญอื่นๆ ต่อไปในปีนี้ขณะที่บริษัทกำลังเดินหน้าสร้างเมตาเวิร์ส
เมตาที่เปลี่ยนชื่อจากเฟซบุ๊กเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เพื่อสะท้อนเป้าหมายที่เมตา กำลังเดิมพันว่า เมตาเวิร์สจะเป็นผู้สืบทอดต่อจากระบบอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ในปัจจุบัน กระนั้น เป้าหมายนี้ทำให้บริษัทต้องลงทุนนับหมื่นล้านในเฟซบุ๊ก เรียลิตี้ แล็บส์โดยที่จะไม่ได้รับผลตอบแทนอีกนาน
การเปลี่ยนแบรนด์ของเมตายังเกิดขึ้นขณะที่บริษัทถูกเพ่งเล็งจากบรรดาสมาชิกรัฐสภาและหน่วยงานคุมกฎทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปเพิ่มมากขึ้น ในข้อหามีพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขัน รวมทั้งการจัดการกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวิธีที่บริษัทจัดการเนื้อหาอันตรายหรือเนื้อหาที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)
