xs
xsm
sm
md
lg

ลูกชาย ‘มาร์กอส’ ลั่นจะทำงาน 'รับใช้ประชาชน' วอนสื่อเลิกขุดเรื่องมีพ่อเป็น ‘เผด็จการ’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีตัวเต็งของฟิลิปปินส์ ยืนกราน “ไม่ขอพูดถึงเรื่องอดีต” หลังถูกสื่อยิงคำถามเกี่ยวกับบิดาที่เคยปกครองฟิลิปปินส์ด้วยระบอบเผด็จการอยู่นานถึง 2 ทศวรรษ กระทั่งเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติประชาชนโค่นล้มอำนาจของเขาลงได้เมื่อ 35 ปีที่แล้ว

มาร์กอส หรือ “บองบอง” วัย 64 ปี พยายามเลี่ยงคำถามเรื่องการบังคับใช้กฎอัยการศึกในช่วงที่พ่อของเขาเป็นประธานาธิบดีระหว่างปี 1965-1986 โดยพยายามชูนโยบาย “สร้างความปรองดอง” ในชาติแทน

“มีคำถามอะไรที่ยังไม่เคยถามอีกเหรอ? แล้วมีคำตอบอะไรที่ยังไม่เคยตอบอีก?” มาร์กอส ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ One News เมื่อค่ำวันจันทร์ (25) โดยแสดงท่าทีเบื่อหน่ายอย่างชัดเจน

“มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว” เขาย้ำ

นักวิจารณ์ชี้ว่า ครอบครัวมาร์กอสไม่เคย “ขออภัย” หรือออกมายอมรับความผิดพลาดที่ทำในอดีต และเชื่อว่าการสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของ “บองบอง” เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ “ฟอกขาว” ประวัติศาสตร์ เพื่อลบล้างความผิดให้ตระกูลมาร์กอส

อย่างไรก็ตาม มาร์กอส ผู้ลูกยืนยันว่า เขาเพียงแค่ต้องการ “ทำงานรับใช้ประชาชน” เท่านั้น

มาร์กอส ระบุว่า สิ่งที่ประชาชนอยากรู้มากกว่าก็คือ เขามียุทธศาสตร์อย่างไรที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลพวงของโรคระบาดโควิด-19 ที่คร่าชีวิตชาวแดนตากาล็อกไปแล้ว 53,000 คน และทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมราว 3 ล้านคน

“ประเด็นเหล่านี้แหละที่สำคัญมากกว่า เราจะไม่มัวยึดติดกับเรื่องเมื่อ 35 ปีก่อนอีก” มาร์กอส ให้สัมภาษณ์

แม้เหยื่อของระบอบมาร์กอสจะพยายามส่งเสียงคัดค้านการกลับคืนสู่อำนาจของทายาทผู้นำเผด็จการ แต่ผลสำรวจล่าสุดชี้ว่า มาร์กอส เป็นเต็งหนึ่งที่มีคะแนนนิยมแซงหน้าผู้สมัครประธานาธิบดีคู่แข่งอย่าง แมนนี ปาเกียว อดีตนักชกคนดัง และรองประธานาธิบดี เลนี โลเบรโด อยู่หลายขุม

ผู้สังเกตการณ์การเมืองฟิลิปปินส์ยกเครดิตให้ทีมหาเสียงของ มาร์กอส ซึ่งมีการใช้โซเชียลมีเดียอย่างซับซ้อนและมีประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงประชาชน

หลังจากทวิตเตอร์ได้ระงับบัญชีอวยมาร์กอสนับร้อยๆ บัญชีฐานละเมิดกฎเกี่ยวกับการใช้งานและสแปม เจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงว่า ไม่เคยใช้ “กองทัพโทรลล์” (troll army) แต่ยอมรับว่าโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับแคมเปญหาเสียง

ที่มา : รอยเตอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น