สายการบินชั้นนำทั่วโลกแห่ปรับเปลี่ยนรุ่นเครื่องบิน หรือยกเลิกเที่ยวบินไปอเมริกา ก่อนกำหนดเปิดใช้งานระบบสื่อสารเคลื่อนที่ 5จี ในสหรัฐฯ เนื่องจากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย แม้ 2 ผู้ให้บริการเครือข่ายเคลื่อนที่ประกาศเลื่อนการใช้เทคโนโลยีนี้ในบริเวณใกล้สนามบินก็ตาม
องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) เตือนว่า สัญญาณรบกวนจาก 5จีอาจส่งผลต่อระบบอ่านค่าความสูงที่มีบทบาทสำคัญในการลงจอดของเครื่องบินระหว่างสภาพอากาศเลวร้ายสำหรับเครื่องบินบางรุ่น
ด้วยเหตุนี้ แม้เอทีแอนด์ทีและเวอไรซอน 2 ผู้ให้บริการได้ประกาศระงับการเปิดใช้งานสถานีถ่ายทอดสัญญาณ 5จีบางแห่งที่อยู่ใกล้สนามบินบางแห่งในอเมริกา สายการบินหลายแห่งยังคงตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินหรือเปลี่ยนรุ่นเครื่องบินที่ให้บริการ
คืนวันอังคาร (18 ม.ค.) เอฟเอเอเริ่มปรับปรุงแนวทางปฏิบัติกี่ยวกับสนามบินและรุ่นเครื่องบินที่อาจได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากประกาศเกือบ 1,500 ฉบับเกี่ยวกับข้อจำกัดสำหรับ 5จีที่หน่วยงานคุมกฎเผยแพร่
เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ ของดูไบ ซึ่งเป็นสายการบินที่ใช้โบอิ้ง 777 มากที่สุด ประกาศระงับเที่ยวบินไปยัง 9 จุดหมายปลายทางในอเมริกาตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ผู้ให้บริการทั้ง 2 รายเริ่มเปิดใช้งานระบบ 5จี
ก่อนหน้านี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งประกอบด้วย ดูไบ และรัฐเจ้าครองแคว้นอาหรับ (เอมิเรตส์) อีก 6 แห่ง ประสบความสำเร็จในการเปิดใช้งานระบบ5จี รอบสนามบินโดยปราศจากปัญหาใดๆ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ แต่ในอเมริกานั้น เอฟเอเอกังวลว่า เทคโนโลยี 5จี ระบบซี-แบนด์อาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์การบิน
ส่วนสายการบินชั้นนำ 2 แห่งของญี่ปุ่นคือ ออล นิปปอน แอร์เวยส์ และเจแปน แอร์ไลนส์ เผยว่า จะระงับเที่ยวบินที่ใช้โบอิ้ง 777 เช่นเดียวกัน โดยเอเอ็นเอสั่งยกเลิกหรือเปลี่ยนเครื่องบินในบางเที่ยวบินที่ไปยังอเมริกา
นอกจากนั้น ยังมีสายการบินอีกหลายแห่ง เช่น โคเรียน แอร์ไลนส์ ของเกาหลีใต้, ไชน่า แอร์ไลนส์ของไต้หวัน, คาเธ่ย์ แปซิฟิก แอร์เวยส์ ของฮ่องกง, แอร์ อินเดีย, บริติช แอร์เวยส์, ลุฟต์ฮันซาของเยอรมนี และสิงคโปร์ แอร์ไลนส์ ที่ตัดสินใจยกเลิกบางเที่ยวบินหรือเปลี่ยนเครื่องบินที่ให้บริการ เพื่อตอบสนองต่อการแจ้งเตือนจากโบอิ้งว่า สัญญาณ 5จีอาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์วัดความสูงของรุ่น 777 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนระบบลงจอดอัตโนมัติ รวมทั้งการตรวจยืนยันว่า เครื่องบินกำลังลงจอดก่อนอนุญาตให้ลดความเร็ว
อย่างไรก็ตาม โฆษกของโบอิ้งยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งนี้ จากข้อมูลของไฟลต์เรดาร์ 24 ระบุว่า ปีที่ผ่านมา โบอิ้ง 777 เป็นเครื่องบินลำตัวกว้างที่ใช้มากที่สุดอันดับ 2 รองจากโบอิ้ง 767 สำหรับเที่ยวบินไปและจากสนามบินในอเมริกา โดยมีจำนวนราว 210,000 เที่ยวบิน
แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมเผยว่า โบอิ้งได้ออกคำแนะนำทางเทคนิคโดยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสัญญาณรบกวน แต่อำนาจในการประกาศจำกัดเที่ยวบินเป็นของเอฟเอเอ ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งจำกัดการใช้งานในสนามบินสำคัญบางแห่ง เว้นแต่สายการบินที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้รับการอนุมัติเป็นกรณีพิเศษ
แหล่งข่าวบางคนเสริมว่า การตัดสินใจระงับการเปิดใช้งานสถานีถ่ายทอดสัญญาณ 5จีใกล้สนามบินของเอทีแอนด์ทีและเวอไรซอน กระทำช้าเกินไป และส่งผลกระทบต่อเครื่องบินที่มีระบบการทำงานซับซ้อนทำให้สายการบินต่างๆ ต้องยกเลิกเที่ยวบินบางส่วนหรือเปลี่ยนเครื่องบินที่ให้บริการ
อย่างไรก็ดี ใช่ว่าเที่ยวบินที่ใช้เครื่อง 777 ได้รับผลกระทบทั้งหมด เช่น เอมิเรตส์ที่เผยว่า ยังคงให้บริการด้วยเครื่องบินรุ่นนี้ในเส้นทางไปยังกรุงวอชิงตันซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากระบบ 5จี และกาตาร์ แอร์เวยส์ ที่ใช้ทั้งโบอิ้ง 777 และ เอ350 ของแอร์บัส ระบุว่า ให้บริการทั้ง 12 เที่ยวบินในเส้นทางอเมริกาตามปกติ แต่อาจมีความล่าช้าเล็กน้อยสำหรับเที่ยวบินจากอเมริกาสู่โดฮา
(ที่มา : รอยเตอร์)