สิงโตและเสือพูม่า ณ สวนสัตว์แห่งหนึ่งในกรุงพริทอเรีย แอฟริกาใต้ ติดเชื้อโควิด-19 อาการรุนแรงจากผู้ดูแลคนหนึ่งที่ไม่แสดงอาการ ก่อความกังวลว่าตัวกลายพันธุ์ใหม่ๆอาจอุบัติขึ้นจากสัตว์รังโรค จากผลการศึกษาที่ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยท้องถิ่นแห่งหนึ่ง
ผลการวิจัยปี 2020 ซึ่งทำการศึกกษาอุจจาระของเสือพูม่า 2 ตัว ที่มีอาการท้องเสีย น้ำมูกไหลและเบื่ออาหาร พบว่าสัตว์ทั้ง 2 ตัวติดเชื้อโควิด-19 และต้องใช้เวลานาน 23 วันถึงจะหายป่วยอย่างสมบูรณ์ มหาวิทยาลัยพริทอเรีย ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันอังคาร (18 ม.ค.) พร้อมกล่าวต่อว่า 1 ปีต่อมา ท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอก 3 ของแอฟริกาใต้ ที่มีตัวกลายพันธุ์เดลตาเป็นตัวขับเคลื่อน สิงโต 3 ตัว ซึ่งมีอาการปอดอักเสบ มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก
การศึกษาระบุว่า มันคือเพิ่มเติมหลักฐานที่ว่า ในขณะที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่เชื้อจากสัตว์สู่คนยังคงเป็นทฤษฎีหลัก แต่การแพร่เชื้อย้อนกลับจากมนุษย์สู่สัตว์ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ข้อมูลบ่งชี้ว่า ไวรัสวนเวียนอยู่ในหมู่เจ้าหน้าที่สัตว์สัตว์ในช่วงเวลากับที่สิงโตล้มป่วย และดูเหมือนว่าเชื้อโรคจะแพร่จากเจ้าหน้าที่สู่สิงโต จากนั้นเชื้อโรคก็อาจกลายพันธุ์ในสัตว์และกลับมาแพร่เชื้อสู่มนุษย์อีกรอบ พวกนักวิจัยระบุ
พวกนักวิจัยระบุในถ้อยแถลง แนะนำว่ามาตรการต่างๆ อย่างเช่น สวมหน้ากากและควบคุมการแพร่เชื้อควรถูกนำมาใช้กับบรรดาสัตว์ในกรง เช่นเดียวกับได้มีการจัดตั้งแนวกั้นเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสวนสัตว์เข้าใกล้กับพวกสัตว์มากเกินไป
"นี่ก็เพื่อปกป้องสัตว์ใกล้สูญพันธุ์จากการล้มป่วยหรือตาย" มาริเอตเจีย เวนเตอร์ และแคทยา โคเอปเปล 2 ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยพริทอเรียกล่าวในถ้อยแถลงนี้ "มาตรการนี้ยังมีความสำคัญ เพราะว่ามีความเสี่ยงที่ตัวกลายพันธุ์ใหม่ๆ จะถือกำเนิดชึ้น หากว่าไวรัสก่อรากวางฐานตัวมันเองในสัตว์รังโรคอื่นๆ และตัวหลายพันธุ์นี้อาจแพร่เชื้อกลับสู่มนุษย์"
นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น เดนมาร์กสั่งฆ่ามิงค์ถึง 17 ล้านตัวในประเทศ หลังพบพวกมันติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และฮ่องกงเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (18 ม.ค.) จะกำจัดสัตว์ขนาดเล็ก 2,000 ตัว ในนั้นรวมถึงแฮมสเตอร์ หลังจากบางตัวมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก
(ที่มา : บลูมเบิร์ก)