ตำรวจแอฟริกาใต้บุกจับ “กษัตริย์กอยซาน” ผู้นำชนเผ่าพื้นเมือง พร้อมรื้อถอน “ต้นกัญชา” ซึ่งนักเคลื่อนไหวชนเผ่านำมาปลูกใกล้ๆ ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงพริทอเรีย หลังจากคนกลุ่มนี้มาตั้งแคมป์ปักหลักในเมืองหลวงนานถึง 3 ปี เพื่อเรียกร้องให้ทางการประกาศรับรองภาษาของพวกเขา
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันพุธ (12 ม.ค.) ตำรวจราว 20 นาย พร้อมสุนัขดมกลิ่นได้บุกเข้าไปรื้อถอนต้นกัญชา ซึ่งปลูกอยู่ใกล้ๆ อนุสาวรีย์อดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา ขณะที่กษัตริย์ของชาวกอยซานก็พยายามขัดขวางอย่างสุดฤทธิ์ ไม่ให้ตำรวจนำต้นกัญชาเหล่านี้ไป
“ตำรวจ พวกคุณกำลังประกาศสงครามนะ! เรามาอยู่ที่นี่กันอย่างสันติ เรามาเพื่อพูดคุยกับพวกคุณ” กษัตริย์กอยซาน กล่าว
ด้านนักเคลื่อนไหวชาวกอยซานอีกคนก็ตะโกนด่าตำรวจว่า “มาจับเพราะต้นพืชเนี่ยนะ? พวกคุณมันขยะในเครื่องแบบ”
สุดท้ายแล้ว ตัวกษัตริย์กอยซาน ถูกจับพร้อมพวกอีก 3 คน
ชาวกอยซานซึ่งเป็นหนึ่งในชนพื้นเมืองเก่าแก่ที่สุดของแอฟริกาใต้ ได้มาตั้งเต็นท์บริเวณสนามหญ้าด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี 2018 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแอฟริกาใต้ประกาศรับรองภาษาของพวกเขา รวมไปถึงสิทธิในดินแดน และอัตลักษณ์ของชาวกอยซาน
ตำรวจปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ แต่นักข่าวได้ยินเจ้าหน้าที่พูดว่า ปฏิบัติการกวาดล้างคราวนี้เป็นเพราะนักเคลื่อนไหวเริ่มเอากัญชามาปลูกในแปลงผักของพวกเขาเมื่อราวๆ 6 เดือนก่อน
ทั้งนี้ ศาลสูงสุดแอฟริกาใต้มีคำตัดสินเมื่อปี 2018 ว่า การบริโภคกัญชาแบบส่วนบุคคลนั้น ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย
“ราชินีซินเธีย” ซึ่งเป็นมเหสีของกษัตริย์กอยซาน แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งที่ตำรวจหลายสิบนายถือปืนบุกเข้ามาจับสามีของเธอ
“กษัตริย์พยายามทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางไม่ให้ตำรวจเอากัญชาไป แต่พวกนั้นลากตัวพระองค์ออกไปจากสวน” ราชินีกล่าว พร้อมเผยว่าชาวกอยซานมีการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคต่างๆ มานานแล้ว ตั้งแต่มะเร็ง เรื่อยไปจนถึงโรความดันโลหิตสูง
ที่มา : เอเอฟพี