เศรษฐกิจจีนปีที่ผ่านมาขยายตัวสูงสุดในรอบทศวรรษ แต่เริ่มส่งสัญญาณน่าเป็นห่วงช่วงไตรมาสสุดท้าย นอกจากนั้น ทางการยังเตือนแนวโน้มการเติบโตปีนี้เผชิญปัจจัยขาลงหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงการระบาดของโควิดที่ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 223 คน แม้เป็นจำนวนไม่มากหากดูจากมาตรฐานทั่วโลก แต่สำหรับแดนมังกรถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (เอ็นบีเอส) แถลงในวันจันทร์ (17 ม.ค.) ว่า อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของแดนมังกรประจำปี 2021 อยู่ที่ 8.1% สูงที่สุดนับจากปี 2011 ทั้งยังสูงกว่าตัวเลขที่พวกนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กันซึ่งอยู่ที่ 8%
อย่างไรก็ตาม การเติบโตส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนแรก ก่อนเสียศูนย์จากการระบาดของโควิด-19 ปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการปราบปรามอุตสาหกรรมบางแขนงของทางการ
นอกจากนั้น ในวันจันทร์ ธนาคารชาติของจีนยังประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางลงอยู่ที่ 2.85% ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกนับจากต้นปี 2020 ซึ่งโควิดกำลังระบาดหนัก อีกทั้งเป็นสัญญาณว่า แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2022 นี้ยังคงไม่แน่นอน
หนิง จี่เจ่อ โฆษกของเอ็นบีเอส เตือนว่า เศรษฐกิจภายในประเทศอยู่ภายใต้ความกดดันสามประการคือ การหดตัวของอุปสงค์ ผลกระทบต่ออุปทาน และความคาดหวังที่ลดลง
เอ็นบีเอสเสริมด้วยว่า อัตราเกิดของจีนลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ มาอยู่ที่ 7.52 คนต่อ 1,000 คน ซึ่งนักวิเคราะห์เตือนว่า อัตราเกิดที่ลดลงเร็วกว่าคาดเช่นนี้อาจทำให้ปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงขึ้นในระยะยาว
ทอมมี่ อู๋ จากออกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์ สำทับว่า การเติบโตของจีนในเวลานี้ถูกฉุดรั้งจากภาวะชะลอตัวในภาคอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ พื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญยังเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับจากการพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และต้นทุนพลังงานที่พุ่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน แม้นโยบาย “โควิดต้องเป็นศูนย์” ของทางการปักกิ่ง ช่วยให้สถานการณ์ภายในของจีนกลับสู่ภาวะปกติเร็วกว่าชาติอื่นๆ โรงงานส่วนใหญ่ไม่ต้องล็อกดาวน์ ขณะที่ความต้องการทั่วโลกพุ่งทะยานเนื่องจากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่จำนวนมากต้องล็อกดาวน์ ทว่า การฟื้นตัวของจีนเริ่มสะดุดในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากโควิดกลับมาระบาดเป็นระยะๆ ทำให้ทางการต้องยกระดับมาตรการจำกัดในพื้นที่ซึ่งเกี่ยวข้องอยู่เป็นช่วงๆ ซึ่งกระทบต่อดีมานด์ของผู้บริโภค
ปี 2022 นี้ยังมีแนวโน้มว่าจะเป็นอีกปีที่บรรยากาศการฉลองเทศกาลตรุษจีนเงียบเหงาลง โดยขณะนี้พนักงานจำนวนมากได้รับคำแนะนำให้งดเดินทางเนื่องจากโควิด
จีนเจอเคสโควิดสูงที่สุดในรอบ 10 เดือน
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อรายวันในเวลานี้ ทางการจีนรายงานในวันจันทร์ (17) ว่า รอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเจอเคสใหม่ 223 คน สูงที่สุดนับจากเดือนมีนาคม 2020 ในจำนวนนี้ 80 คนพบที่เมืองเทียนจิน และ 9 คนในกวางตุ้ง ซึ่งพบผู้ติดโอมิครอน 1 คนที่เชื่อมโยงกับการระบาดในเมืองจูไห่
ทั้งนี้ ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งปักกิ่งและเซินเจิ้นพบผู้ติดโอมิครอนในท้องถิ่นครั้งแรก
ติดเชื้อโอมิครอนเพราะสัมผัส “จดหมายส่งจากแคนาดา”?
สำหรับปักกิ่งนั้น ผาง ซิงหั่ว เจ้าหน้าที่อาวุโสสำนักงานควบคุมโรค ระบุว่า มีความเป็นไปได้ว่า ผู้ติดโอมิครอนคนแรกที่พบอาจติดเชื้อจากจดหมายที่ส่งมาจากต่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ พวกเจ้าหน้าที่บอกว่า หญิงที่ติดเชื้อผู้นี้ไม่ได้เดินทางไปไหน และไม่ได้ติดต่อสัมผัสคนที่ติดเชื้อ
ขณะที่ ผางแถลงกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ว่า พบเชื้อไวรัสบนพื้นผิวจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งหญิงผู้นี้ได้รับจากแคนาดา รวมทั้งพบเชื้ออยู่ภายในจดหมายฉบับนั้นซึ่งยังไม่ได้ถูกเปิดออกมา จากนั้นจึงมีการทดสอบจดหมายหลายสิบฉบับที่ส่งมาในรุ่นเดียวกัน และพบ 5 ฉบับมีร่องรอยของโควิด-19
ทั้งนี้ สายพันธุ์ที่พบจากจดหมายเหล่านี้มีความแตกต่างจากเชื้อโอมิครอนในเคสที่พบอยู่ในจีน แต่คล้ายๆ กับสายพันธุ์ที่ถูกระบุว่ามาจากอเมริกาเหนือเมื่อเดือนที่แล้ว
“เราจึงมาถึงข้อสรุปว่า ความเป็นไปได้ที่จะมีการติดเชื้อไวรัสโดยผ่านพวกวัตถุที่ส่งเข้ามาจากต่างประเทศ เป็นเรื่องซึ่งไม่สามารถบอกปัดได้ว่าจะไม่เกิดขึ้น” เจ้าหน้าที่หญิงผู้นี้กล่าว พร้อมกับเตือนชาวเมืองว่า ให้พยายามหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าจากต่างประเทศในช่วงที่มีโรคระบาด และต้องใช้มาตรการป้องกันในเวลาเปิดจดหมายหรือพัสดุที่มาจากต่างแดน เช่น สวมหน้ากากและถุงมือป้องกัน ตลอดจนไปเปิดในที่กลางแจ้ง
ทางด้าน หลี่ อั้ง รองผู้อำนวยการคณะกรรมกรสาธารณสุขเทศบาลปักกิ่งเผยเมื่อวันจันทร์ว่า โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งรับผู้ติดโอมิครอน 9 คนเข้ารักษา โดยที่ 6 คนยังอยู่ในโรงพยาบาล
ขณะที่มหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวกำลังจะเริ่มต้นในเดือนหน้า ปักกิ่งซึ่งเป็นเจ้าภาพงานนี้ จึงเร่งยกระดับมาตรการป้องกันโดยกำหนดให้มีการตรวจโควิดทั้งก่อนและหลังเดินทางเข้าเมือง และเรียกร้องให้ประชาชนงดเดินทางออกจากเมืองในช่วงวันหยุดตรุษจีนในเดือนหน้า
นอกจากนี้ ยังพบผู้ติดเชื้ออีก 68 คนในมณฑลเหอหนาน ซึ่งมีการล็อกดาวน์บางส่วนและตรวจโควิดประชาชนหลายล้านคน
เวลาเดียวกัน จูไห่ซึ่งเป็นเมืองพรมแดนติดกับมาเก๊า ประกาศให้ประชาชนงดออกจากเมืองหลังพบผู้ติดโอมิครอนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งยังเริ่มปูพรมตรวจโควิดตั้งแต่วันจันทร์
จนถึงขณะนี้ จีนพบผู้ติดโอมิครอนในอย่างน้อย 5 มณฑลและเทศบาลเทียบเท่ามณฑล ขณะที่ 14 มณฑลพบนักเดินทางจากต่างประเทศที่ติดโอมิครอน
ล่าสุด รัฐบาลท้องถิ่นในหลายเมืองแนะนำประชาชนงดเดินทางออกจากเมืองหากไม่จำเป็นระหว่างวันหยุด และยังมีการระงับเที่ยวบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศหลายสิบเที่ยว
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)