อเมริกาเจอยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายวันทำสถิติอีกครั้ง โดยพุ่งพรวดขึ้นไปถึง 1.35 ล้านคน มิหนำซ้ำจำนวนผู้ป่วยที่ถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลก็เพิ่มเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 130,000 คน ด้าน WHO คาดภายใน 6-8 สัปดาห์ข้างหน้า ประชากรกว่า 50% ในยุโรปจะติดไวรัสโคโรนาตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่จีน หลายๆ เมืองพากันยกระดับมาตรการสกัดโอมิครอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่ปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกต้นเดือนหน้า รวมทั้งเทศกาลตรุษจีน 1 กุมภาพันธ์
ผู้ติดเชื้อรายใหม่รอบ 24 ชั่วโมง จำนวน 1.35 ล้านรายที่สหรัฐฯ รายงานเมื่อวันจันทร์ (10) ทุบสถิติครั้งก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 1.03 ล้านคนเมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่า จำนวนเคสที่รายงานกันในวันจันทร์มักสูงกว่าวันอื่นๆ เนื่องจากหลายรัฐไม่มีการรายงานในช่วงสุดสัปดาห์
สำหรับจำนวนเคสใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับความเชื่อถือมากกว่านั้น ก็เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดยอยู่ที่วันละกว่า 700,000 คน ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโควิดที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในวันจันทร์นั้นทะยานขึ้นเป็นกว่า 136,604 คน ทุบสถิติเดิมที่ทำไว้เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้วที่ 132,051 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 1,700 คน เพิ่มจากราว 1,400 คนในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ แต่อยู่ในระดับเดียวกับช่วงต้นฤดูหนาว
ถึงแม้ตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งกำลังกลายเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดกว้างขวางที่สุดในเวลานี้ มีอาการรุนแรงน้อยกว่าโควิดสายพันธุ์อื่นๆ แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวนมากเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งพรวดยังอาจทำให้ระบบโรงพยาบาลรับมือไม่ไหว โดยในอเมริกาขณะนี้มีโรงพยาบาลบางแห่งระงับการรับผู้ป่วยเคสที่ไม่เร่งด่วนกันแล้ว เนื่องจากมีผู้ป่วยโควิดจำนวนมาก ซ้ำยังขาดแคลนบุคลากร
ทางด้านยุโรป เมื่อวันอังคาร (11) ฮันส์ คลูช ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภาคพื้นยุโรป แถลงว่า ด้วยอัตราผู้ติดเชื้อในขณะนี้ คาดว่าภายใน 6-8 สัปดาห์ข้างหน้า ประชากรกว่า 50% ในยุโรปจะติดโอมิครอน
ทั้งนี้ ยุโรปรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 7 ล้านคนในช่วงสัปดาห์แรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัวจาก 2 สัปดาห์ก่อนหน้า
ส่วนที่จีน เมืองต่างๆ พากันยกระดับมาตรการสกัดไวรัส โดยในวันอังคาร เจ้าหน้าที่เมืองเทียนจินแถลงว่า พบผู้ติดเชื้อ 49 คนจากการระบาดระลอกล่าสุด และขณะนี้เมืองที่มีประชากร 14 ล้านคนแห่งนี้อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมเข้มข้นเพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ให้ลุกลามไปยังปักกิ่งที่อยู่ติดกัน
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียนจินยืนยันพบผู้ติดโอมิครอนในท้องถิ่น 2 คนแรก และพบผู้ติดเชื้อ 20 คนในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังจากนั้น
การระบาดในเทียนจินยังเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อในเมืองอันหยาง ของมณฑลเหอหนานที่ตั้งอยู่ตอนกลางประเทศ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันรวม 84 คนนับจากวันเสาร์ที่ผ่านมา (8)
หลิว ต้าวกง รองผู้อำนวยการแผนกขนส่งของเมืองเทียนจิน ระบุว่า ประชาชนที่ต้องการเดินทางออกจากเมืองจะต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบ และมีการตั้งจุดตรวจ 279 แห่งทั่วเมือง นอกจากนั้น ทางการยังปูพรมตรวจโควิดประชาชนทั้งเมือง
การระบาดของโอมิครอนในจีนเกิดขึ้นก่อนที่จะถึงเทศกาลตรุษจีนเพียงไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนนับล้านออกเดินทางกลับบ้าน และขณะนี้หลายเมืองแนะนำให้ประชาชนงดเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ปักกิ่งกำลังจะรูดม่านเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวต้นเดือนหน้า
จาง ป๋อลี่ ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของรัฐบาล ให้สัมภาษณ์สถานีซีซีทีวีของทางการเมื่อวันอังคารว่า ไม่ควรประมาทโอมิครอน แม้อาการไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ก่อนๆ ก็ตาม
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า จีนสั่งยกเลิกเที่ยวบินจากอเมริกากว่า 20 เที่ยวหลังพบผู้โดยสารจำนวนมากมีผลตรวจโควิดเป็นบวกเมื่อเดินทางถึงจีน
ทั้งนี้ จีนรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 192 คนในวันจันทร์ เพิ่มขึ้นจาก 157 คนในวันอาทิตย์ (9) ในจำนวนนี้ 110 คนเป็นการติดเชื้อในท้องถิ่น เทียบกับ 97 คนในวันก่อนหน้า
สำหรับมณฑลเหอหนาน ที่มีประชากรหนาแน่นนั้นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 87 คน ขณะที่เมืองอันหยาง ยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 คนเป็นคลัสเตอร์โอมิครอนจากเทียนจิน อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานชัดเจนว่า เหอหนานมีผู้ติดเชื้อโอมิครอนกี่คน
นอกจากนี้ ยังพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ที่อยู่ห่างจากเซี่ยงไฮ้ 120 กิโลเมตร ผู้ป่วยรายนี้เดินทางจากออสเตรเลียไปยังเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมาก่อนบินต่อไปที่อู๋ซี
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)