โลกส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปี 2022 ด้วยความเงียบเหงาในวันศุกร์ (31 ธ.ค.) หลังเผชิญอีกขวบปีแห่งความยุ่งเหยิงและล้มหมอนนอนเสื่อจากโรคระบาดใหญ่ ขณะที่หลายชาติจำเป็นต้องกำหนดข้อจำกัดต่างๆ รอบใหม่ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้น และมีแสงแห่งความหวังสลัวๆ รออยู่เบื้องหน้า
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เราได้พบเห็นทั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ อัลบัมใหม่ของอะเดล กีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่ปราศจากคนดูเป็นครั้งแรก และความฝันแห่งประชาธิปไตยในหลายชาติ ไล่ตั้งแต่อัฟกานิสถาน พม่า ซูดาน ไปจนถึงฮ่องกง ถูกบดขยี้โดยรัฐบาลเผด็จการ
อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นโรคระบาดใหญ่ ซึ่งเวลานี้เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ที่ครอบงำวิถีชีวิตของมวลมนุษยชาติเกือบทั้งหมด
มีมากกว่า 5.4 ล้านคนที่เสียชีวิตนับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ถูกรายงานเป็นครั้งแรกในภาคกลางของจีนในเดือนธันวาคม 2019 และมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกนับไม่ถ้วน ท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอกแล้วระลอกเล่า และการเข้าๆ ออกๆ มาตรการล็อกดาวน์
มนุษย์เริ่มขวบปี 2021 ด้วยแสงแห่งความหวัง ด้วยวัคซีนปกป้องชีวิตถูกแจกจ่ายกระจายฉีดให้ประชากรโลกคิดเป็นสัดส่วนแล้วราวๆ 60% แม้หลายชาติยากจนยังเข้าถึงอย่างจำกัด อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์โอมิครอนผลักให้จำนวนเคสผู้ติดเชื้อรายวันทั่วโลกทะลุ 1 ล้านคนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด
ฝรั่งเศสในวันศุกร์ (31 ธ.ค.) กลายเป็นชาติล่าสุดที่ประกาศว่าตัวกลายพันธุ์โอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และแม้กระทั่งออสเตรเลีย ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนกำลังขับเคลื่อนเคสผู้ติดเชื้อใหม่ทุบสถิติสูงสุดรอบแล้วรอบเล่า
ไล่ตั้งแต่กรุงโซล จนถึงซานฟรานซิสโก งานเฉลิมฉลองถูกยกเลิกอีกครั้งหรือจัดงานอย่างจำกัด เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ดูไบ เดินหน้างานเฉลิมฉลองแม้เคสผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ด้วยมีการจุดพลุไฟ 36 ชุดจาก 29 จุด และพวกนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันตั้งแต่หัวค่ำ เพื่อชมความสวยงามตื่ตาตื่นใจ ณ เบิร์จ คาลิฟา ตึดสูงที่สุดในโลก
ในซิดนีย์ ซึ่งในช่วงเวลาปกติจะอวดอ้างตนเองว่าเป็น "เมืองหลวงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของโลก" อ่าวอันกว้างใหญ่ไพศาลมักมีนักท่องเที่ยวหลายล้านคนมารวมตัวกันในแต่ละปี มาคราวนี้การแสดงพลุไฟสวยงามอลังการของเมืองถูกจุดขึ้นโดยมีฝูงชนเข้าร่วมลดน้อยลงอย่างมาก
ด้วยนักท่องเที่ยวยังคงไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศและชาวบ้านจำนวนมากหวั่นกลัวต่อการแพร่ระบาดของโอมิครอน จึงประมาณการว่าในปีนี้มีผู้เข้าร่วมไม่กี่หมื่นคนเท่านั้น กระนั้นเมืองแห่งนี้ยังคงฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตามแบบฉบับ พลุไฟสีสันกว่า 6 ตันถูกจุดขึ้นเหนือโอเปราเฮาส์ และเรือท้องแบน เปลี่ยนสะพานฮาร์เบอร์ดูคล้ายกับสายรุ้ง
ที่แอฟริกาใต้ ประเทศแรกที่รายงานพบเคสผู้ติดเชื้อโอมิครอนย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายน ได้มีคำสั่งยกเลิกเคอร์ฟิวในวันพฤหัสบดี (30 ธ.ค.) เปิดทางให้เดินหน้าจัดงานรื่นเริงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เจ้าหน้าที่ระบุว่า เคสผู้ติดเชื้อที่ลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าระลอกการแพร่ระบาดปัจจุบันเลยจุดพีกแล้ว และที่สำคัญคือไม่พบจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลแต่อย่างใด
ในริโอเดอจาเนโร งานเฉลิมฉลองที่หาดโคปาคาบานา ยังจะเดินหน้าตามเดิมแต่มีปรับลดรูปแบบลง และคาดหมายว่าฝูงชนนักท่องเที่ยวก็จะยังคงอัดแน่นตามแหล่งปาร์ตีต่างๆ
ที่อินเดีย นิวเดลีประกาศเคอร์ฟิวตอน 22.00 น. ส่วนตำรวจมุมไบออกคำสั่งห้ามประชาชนไปเล่นน้ำตามชายหาดต่างๆ ของเมือง รวมถึงเดินเล่นริมทะเล ซึ่งปกติแล้วมักเป็นแหล่งยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมักไปรวมตัวกันในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
สหราชอาณาจักรก็ต้อนรับปีใหม่ในรูปแบบแห่งความเงียบเหงาเช่นกัน ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นไม่หยุด สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน และอุณหภูมิวันส่งท้ายปีเก่าอุ่นที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกมา เกือบๆ 15 องศาเซลเซียส
เจ้าหน้าที่เนเธอร์แลนด์ สั่งห้ามจุดพลุไฟเป็นที่ 2 ติดต่อกัน เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บจากการเล่นพลุ ซึ่งอาจก่อความตึงเครียดเพิ่มเติมแก่ระบบสาธารณสุขซึ่งแบกรับภาวะหนักหนาสาหัสอยู่ก่อนแล้วจากโรคระบาดใหญ่โควิด-19
องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนภัยโควิดจะกลายเป็นคลื่นยักษ์สึนามิที่ถล่มระบบสาธารณสุขพังพินาศ อย่างไรก็ตาม ทั้งพวกผู้เชี่ยวชาญและผู้ไม่เชี่ยวชาญต่างแสดงความหวังตรงกัน อยากให้ปี 2022 เป็นที่จดจำในฐานะ "เฟสใหม่ของโรคระบาดใหญ่ที่ความร้ายแรงลดลง"
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่าปี 2022 จะเป็นปีที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน" ออสการ์ รามิเรซ นักท่องเที่ยวรายหนึ่งในซิดนีย์กล่าว "ทุกคนบนโลกต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่"
(ที่มา : เอเอฟพี)