ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ออกมาปรับแก้รายงานโควิด-19 ให้ถูกต้อง ระบุการคำนวณก่อนหน้านี้สำหรับสัดส่วนของเคสผู้ติดเชื้อใหม่อันมีต้นตอจากตัวกลายพันธุ์โอมิครอนนั้น สูงกว่าตัวเลขที่แท้จริงมากกว่า 3 เท่า
ซีดีซีระบุในวันอังคาร (28 ธ.ค.) มีแค่ 22.5% ของเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ธันวาคม ที่เกี่ยวข้องกับตัวกลายพันธุ์โอมิครอน จากเดิมที่คำนวณได้ที่ 73.2% ครั้งที่แถลงออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ซีดีซีเผยด้วยว่าตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้มีสัดส่วนคิดเป็น 58.2% ของเคสผู้ติดเชื้อใหม่ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ ที่เหลือทั้งหมดล้วนแต่มีต้นตอจากตัวกลายพันธุ์เดลตา
รายงานข่าวเกี่ยวกับสัดส่วนเคสผู้ติดเชื้อโอมิครอนของสัปดาห์ที่แล้ว โหมกระพือข่าวพาดหัวอันน่าตื่นตกใจเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรวดเร็วมากของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน และซีดีซีอ้างความผิดพลาดครั้งใหญ่ในรายงานของสัปดาห์ที่แล้วไปที่ข้อมูลใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ขณะที่สำนักข่าวเอบีซีนิวส์เขียนถึงข้อมูลที่ปรับแก้ใหม่ในวันอังคาร (28 ธ.ค.) เกี่ยวกับเคสโอมิครอน ว่า "ลดต่ำอย่างเห็นได้ชัด"
โฆษกของซีดีซีให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า "เรามีข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาในช่วงเวลาดังกล่าว และสัดส่วนของโอมิครอนลดลง อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเน้นย้ำว่าเรายังคงพบเห็นการเพิ่มต่อเนื่องในสัดส่วนของโอมิครอน"
ซีดีซีเผยแพร่ตัวเลขที่สูงเกินจริงนี้เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม หนึ่งวันก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงเตือนอเมริกันชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้ออาการรุนแรงสืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์ใหม่ นอกจากนี้ เขายังอ้างด้วยว่า "เกือบทั้งหมด" ของชาวสหรัฐฯ มากกว่า 400,000 คนที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ในปี 2021 เป็นคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน
สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์โอมิครอน รัฐบาลของไบเดนยกระดับข้อจำกัดด้านการเดินทางเข้มข้นขึ้น ในนั้นรวมถึงแบนนักเดินทางจาก 8 ชาติในภูมิภาคทางใต้ของทวีปแอฟริกา ดินแดนที่พบโอมิครอนเป็นครั้งแรก มาตรการแบนนี้จะยุติลงในวันที่ 31 ธันวาคม แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงเตือนว่าอเมริกันชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนอาจต้องเผชิญกับ "ฤดูหนาวแห่งการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต"
นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ทำเนียบขาวระบุในวันจันทร์ (27 ธ.ค.) ว่าท่ามกลางการแพร่ระบาดของโอมิครอน แม้กระทั่งชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว ก็ไม่ควรเข้าร่วมงานปาร์ตีขนาดใหญ่ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ "ยังมีปีอื่นๆ ให้ฉลอง ไม่ใช่ปีนี้" เขากล่าว
แพทย์หญิงแองเจลิเก โคเอตซี ประธานแพทยสภาแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นคนแรกที่แจ้งเตือนเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน เรียกปฏิกิริยาของนานาชาติที่มีต่อโอมิครอนว่า "ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่" พร้อมยืนยันว่าตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้ก่ออาการเพียงเล็กๆ น้อยๆ หรือไม่แสดงอาการเลยในคนส่วนใหญ่
เธอกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า เวลานี้จำนวนผู้ติดเชื้อในแอฟริกาใต้ลดลงแล้ว และอ้างว่าตัวกลายพันธุ์นี้ไม่ได้ทำให้มีคนไข้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตมากขึ้น "ประเทศแห่งนี้ผ่านเส้นโค้งของโอมิครอนแล้ว" แพทย์หญิงแองเจลิเก โคเอตซี ระบุ
(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)