ไบเดนแถลงยกเลิกคำสั่งแบนนักเดินทางจากแอฟริกา อ้างคลายกังวล 'โอมิครอน'

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ แถลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคาร (28 ธ.ค.) จะยกเลิกมาตรการแบนนักเดินทางจากแอฟริกาใต้และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ที่กำหนดขึ้นมาสืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์โอมิครอนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ชี้พวกนักวิจัยมีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในการเรียนรู้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์ดังกล่าว

"ข้อจำกัดด้านการเดินทางไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปสำหรับปกป้องสุขภาพประชาชน" และจะสิ้นสุดในวันศุกร์ (31 ธ.ค.) ไบเดนกล่าวในคำแถลง

ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวเคยออกมาเปิดเผยว่าจะยกเลิกมาตรการดังกล่าว แต่คำประกาศของไบเดน ส่งผลให้การตัดสินใจนี้มีผลบังคับใช้ ณ เวลา 00.01 น.ตามเวลาในวอชิงตันของวันศุกร์ (31 ธ.ค.) ตรงกับเมืองไทย 12.01 น.

ไบเดนระบุว่า เขาเตรียมยกเลิกคำสั่งแบนตามหลักฐานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) พร้อมระบุว่า เหล่านักวิจัยสหรัฐฯ ภายใต้ความร่วมมือกับบรรดานักวิยาศาสตร์แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นผู้รายงานการพบตัวกลายพันธุ์นี้เป็นชาติแรกๆ ได้มีความคืบหน้าอย่างมากในการเรียนรู้ทำความเข้าใจตัวกลายพันธุ์โอมิครอน

ในขณะที่เวลานี้ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนระบาดไปแล้วมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ แต่ภัยคุกคามของมันถูกพิจารณาว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าที่หวาดกลัวกันในเบื้องต้น "สืบเนื่องจากพวกผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สรุปแล้วว่าคนที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 จะได้รับการปกป้องจากการติดเชื้ออาการรุนแรง" ไบเดน กล่าว

ประเทศต่างๆ ทั่วโลกสกัดการเดินทางจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคทางใต้ของทวีปแอฟริกา หลังจากตัวกลายพันธุ์โอมิครอนถูกพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ซึ่งรายงานเกี่ยวกับการค้นพบโอมิครอนไปยังองค์การอนามัยโลกในวันที่ 24 พฤศจิกายน

องค์การอนามัยโลกและสหประชาชาติ คัดค้านมาตลอดต่อมาตรการแบนการดินทาง ขณะที่เจ้าหน้าที่ในแอฟริกาใต้คร่ำครวญว่าพวกเขาถูกลงโทษ โทษฐานที่ตรวจพบตัวกลายพันธุ์นี้และมีความโปร่งใส

นอกเหนือจากแอฟริกาใต้แล้ว ประเทศที่อยู่ภายใต้มาตรการแบนด้านการเดินทางของสหรัฐฯ ประกอบไปด้วย บอตสวานา ซิมบับเว นามิเบีย เลโซโท เอสวาตินี โมซัมบิก และมาลาวี

(ที่มา : เอเอฟพี)