จำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ในอังกฤษทะลุ 10,000 คนในวันพุธ (29 ธ.ค.) สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ในขณะที่เคสผู้ติดเชื้อรายวันทั่วสหราชอาณาจักรทุบสถิติรอบใหม่
จากข้อมูลอัปเดตของรัฐบาล มีคนไข้โควิด-19 รักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆ ของอังกฤษ 10,462 คน จนถึงตอนเช้าวันพุธ (29 ธ.ค.) สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ส่วนข้อมูลล่าสุดทั่วสหราชอาณาจักรนั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมา
สหราชอาณาจักรยังรายงานพบผู้ติดเชื้อรายวันอีก 183,037 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทุบสถิติรอบใหม่ ในขณะที่ประเทศแห่งนี้เผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหญ่สืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์โอมิครอน
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนแห่งหนึ่งในมิลตัน คียนส์ ทางภาคกลางของอังกฤษ และเรียกร้องประชาชนเข้ารับการตรวจเชื้อและจัดงานปาร์ตีปีใหม่อย่างสมเหตุสมผล
นอกจากนี้ จอห์นสัน ยังเรียกร้องประชาชนเข้าฉีดเข็มกระตุ้นที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยระบุว่า "คนไข้ส่วนใหญ่ที่เข้ารักษาตัวในห้องไอซียูตามโรงพยาบาลต่างๆ ของเราในปัจจุบันยังไม่ฉีดเข็มกระตุ้น" อ้างถึงข้อมูลของบรรดาแพทย์ที่บอกว่า "90% ของจำนวนคนไข้ในห้องไอซียู คือ คนที่ยังไม่ฉีดเข็มกระตุ้น"
จนถึงตอนนี้มีประชาชนในสหราชอาณาจักรแล้วกว่า 33 ล้านคนที่ฉีดเข็มกระตุ้น ในขณะที่ จอห์นสัน เคยประกาศว่าจะฉีดเข็มกระตุ้นประชากรวัยผู้ใหญ่ทุกคนภายในช่วงสิ้นปี
นายกรัฐมนตรีรายนี้เรียกร้องประชาชนให้สนุกสนานรื่นเริงในวันปีใหม่ "ด้วยความระมัดระวังและในแนวทางที่สมเหตุสมผล" และ "เข้ารับการตรวจเชื้อ" ก่อนพบปะเพื่อนๆ
เสียงเรียกร้องนี้มีขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัญหาขาดแคลนชุดตรวจเชื้อด้วยตนเอง สืบเนื่องจากอุปสงค์ที่ล้นทะลัก อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางสำนักงานความมั่นคงทางสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร ทวีตข้อความว่าพวกเขากำลังส่งมอบชุดตรวจมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาและจะมีชุดตรวจมากยิ่งขึ้น
สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เลวร้ายที่สุดในยุโรป โดยมีผู้เสียชีวิตสะสมแล้วกว่า 148,089 คน
จอห์นสัน ปกป้องการตัดสินใจของตนเองที่ไม่ยกระดับข้อจำกัดต่างๆ ในอังกฤษเพื่อควบคุมไวรัส ในช่วงเทศกาลแห่งความรื่นเริง ผิดกับไอร์แลนด์เหนือ สกอตแลนด์และเวลส์ ที่ต่างจำกัดการพบปะกันทางสังคมและสั่งปิดไนต์คลับ
"การเข้ารับเข็มกระตุ้นในระดับสูงในอังกฤษ กำลังเปิดทางให้เราเดินหน้าสู่ปีใหม่ในแนวทางที่ระมัดระวังอย่างที่เราทำอยู่" เขากล่าว นอกจากนี้ "อีกปัจจัยที่สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลคือ ข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยค่อนข้างเล็กน้อยของผู้ติดเชื้อโอมิครอน"
(ที่มา : เอเอฟพี)