เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเยอรมนีแถลงเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ (18 ธ.ค.) เพิ่มสหราชอาณาจักรเข้าไปในบัญชีประเทศเสี่ยงสูงสุดที่พบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งหมายความว่าจะมีการยกระดับข้อจำกัดต่างๆ ด้านการเดินทางเข้มงวดขึ้น
การตัดสินใจนี้เป็นการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ที่กำลังแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว จนทำให้ ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนต้องประกาศภาวะสาธารณภัยครั้งสำคัญในเมืองหลวงของอังกฤษ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในช่วงเที่ยงคืนวันอาทิตย์ (19 ธ.ค.) นั่นหมายความว่า บรรดานักเดินทางขาเข้าจากสหราชอาณาจักรจำเป็นต้องเข้ารับการกักกันโรคสังเกตอาการเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ก็ตาม จากคำแถลงของสถาบันโรเบิร์ต คอช หน่วยงานด้านสาธารณสุขของเยอรมนี
เวลานี้สหราชอาณาจักรถูกพิจารณาในฐานะ "พื้นที่ตัวกลายพันธุ์" ของโควิด-19 หมวดหมู่ที่กำหนดไว้สำหรับประเทศต่างๆ ที่มีความเสี่ยงขั้นสูงสุด "สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์เหเนือได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักหน่วงมาก และยังพบตัวกลายพันธุ์ใหม่ แพร่เชื้อได้ง่ายมากด้วย" กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีระบุบนเว็บไซต์
พบเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 65,000 คนในลอนดอนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และ 24 ชั่วโมงหลังสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26,418 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น
ถ้อยแถลงระบุว่า นี่คือเหตุผลว่าทำไมดินแดนเหล่านี้ ซึ่งรวมไปถึงเกาะไอล์ออฟไวต์และหมู่เกาะแชนเนล จึงถูกกำหนดกักโรค 14 วัน ในหมวดหมู่พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมาก
นอกเหนือจากมาตรการกักกันโรคแล้ว จะมีเพียงพลเมืองเยอรมนี หรือชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในเยอรมนีเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางจากสหราชอาณาจักรมายังเยอรมนี
กฎระเบียบนี้จะถูกบังคับใช้กับทุกภาคการขนส่ง และจะมีการบังคับตรวจเชื้อแบบ PCR กับบุคคลทุกคนที่เดินทางสู่เยอรมนีด้วย
คาร์ล เลาเตอร์บาค รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ของเยอรมนี ได้ส่งเสียงความกังวลต่อความเสี่ยงเผชิญการแพร่ระบาดระลอกใหม่ที่อาจกระจายเป็นวงกว้างทั่วประเทศเร็วๆ นี้ และอาจเป็นการระบาดหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเข้าสูฤดูใบไม้ร่วง
ประเทศอื่นๆ ในยุโรปหลายชาติ ในนั้นรวมถึงฝรั่งเศส ได้ใช้มาตรการต่างๆ สำหรับจำกัดนักเดินทางขาเข้าจากสหราชอาณาจักรไปแล้วเช่นกัน ขณะเดียวกัน เยอรมนีเพิ่มรายชื่อฝรั่งเศส และเดนมาร์กเข้าไปในบัญชี "เสี่ยงสูง" ต่ำกว่าสหราชอาณาจักร 1 ขั้น
(ที่มา : เอเอฟพี)