เดนมาร์กและไอซ์แลนด์เมื่อวันจันทร์ (27 ธ.ค.) รายงานพบเคสผูุ้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ในขณะที่ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก ได้ทำให้ยุโรปกลับมาเป็นจุดร้อนของโลกทั้งในแง่ของการติดเชื้อและเสียชีวิต ส่วนอิสราเอลตัดสินใจรับมือด้วยการปรับลดกรอบเวลาของการฉีดเข็มกระตุ้นเหลือเพียง 3 เดือน
ทั้งเดนมาร์กและไอซ์แลนด์เคยเป็นหนึ่งในชาติที่มีอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ต่ำที่สุดของยุโรป ก่อนการมาเยือนของโอมิครอน
ยุโรปเป็นทวีปที่พบเคสผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในรอบ 7 วันที่ผ่านมา จากสถิติที่รวบรวมโดยสำนักข่าวเอเอฟพี โดย 5 ประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อสุงสุดในช่วง 7 วันหลังสุด ล้วนแต่เป็นชาติในทวีปยุโรป
เดนมาร์ก พบเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันเกิน 15,000 คนเป็นครั้งแรก หลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายงานเคสผู้ติดเชื้อ 16,164 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในขณะที่ประเทศแห่งนี้ซึ่งมีประชากร 5.8 ล้านคน กลายเป็นชาติที่มีอัตราการติดเชื้อสุงที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 1,612 เคสต่อประชากร 100,000 คน
แม้จำนวนคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกำลังเพิ่มสูงขึ้น แต่มันยังคงอยู่ระดับต่ำกว่าระลอกการแพร่ระบาดในเดือนมกราคม ผลจากการที่ประชากรส่วนใหญ่ได้รับการปกป้องโดยวัคซีน และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมเพียง 7 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ผลการศึกษาในเบื้องต้น บ่งชี้ว่า ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนก่ออาการเจ็บป่วยรุนแรงน้อยกว่าตัวกลายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้ อย่างเช่นตัวกลายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดีย
เดนมาร์กสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและจำกัดชั่วโมงการเปิดบาร์และร้านอาหารมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคม ในความพยายามต่อสู้กับการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด ในขณะที่โอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนไอซ์แลนด์ พบเคสผู้ติดเชื้อรายวัน 672 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทุบสถิติสูงสุดเช่นกัน ขณะที่พวกเขาไม่เคยมีเคสผู้ติดเชื้อเกินกว่า 200 คนต่อวันมาก่อนเลย จนกระทั่งเข้าสู่กลางเดือนธันวาคม หลังการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน
ระหว่างระลอกการแพร่ระบาดฤดูใบไม้ร่วงเมื่อปีที่แล้ว เคสผู้ติดเชื้อรายวันของไอซ์แลนด์ ไม่เคยเกิน 100 คน แม้แต่วันเดียว ส่วนในนอร์เวย์ ประเทศเพื่อนบ้าน ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในกรุงออสโล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในความพยายามต่อสู้กับโอมิครอน กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเผยว่า จะอนุญาตให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ครบ 2 เข็มแล้ว เข้ารับเข็มกระตุ้น หลังผ่านการฉีดมาแล้ว 3 เดือน จากเดิมที่กำหนดเว้นระยะห่างระหว่างเข็ม 2 กับเข็ม 3 เป็นเวลา 5 เดือน
รัฐบาลอิสราเอลระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (27 ธ.ค.) ว่าได้ตัดสินใจหั่นกรอบเวลาของการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลกของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน และกฎเกณฑ์ใหม่นี้จะใช้กับวัคซีนของทั้งไฟเซอร์ โมเดอร์นาและแอสตร้าเซนเนก้า
เวลานี้รัฐบาลอิสราเอลยังไม่ตัดสินใจว่าจะฉีดเข็มกระตุ้นเข็มที่ 2 แก่ประชาชนหรือไม่ ในขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังเผชิญกับเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อิสราเอลเริ่มการทดลองฉีดวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เข็มที่ 4 ในวันจันทร์ (27 ธ.ค.) ในสิ่งที่เชื่อว่าเป็นการศึกษาฉีดวัคซีนเข็ม 4 ครั้งแรกของโลก
(ที่มา : รอยเตอร์)