เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ค่ำวันอังคาร (14 ธ.ค.) ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี รวมถึงผู้นำเสียงข้างมากสภาสูงสหรัฐฯ ชัค ชูเมอร์ และผู้นำเสียงข้างน้อยสภาล่างสหรัฐฯ พรรครีพับลิกัน เควิน แม็คคาธี พร้อมกับสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ คนอื่นๆ ร่วมพิธีจุดเทียนไว้อาลัยให้เหยื่อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ที่ผ่านหลัก 800,000 คน ซึ่งเฉพาะตัวเลขผู้เสียชีวิตภายในปีนี้อยู่ที่ 450,000 คน ส่วนมากอยู่ในกลุ่มปฏิเสธการฉีดวัคซีน ขณะที่ยอดรวมผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกทั้งหมด 5,324,528 คน
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (15 ธ.ค.) ว่า สหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากวิกฤติโรคโควิด-19 ล่าสุดในวันอังคาร (14) มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมดแตะหลัก 800,000 คน อ้างอิงตัวเลขจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอฟกินส์ และผู้นำนักการเมืองสหรัฐฯ ต่างร่วมกันทำพิธีจุดเทียนไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตเหล่านี้
เอเอฟพีชี้เป็นเป็นตัวเลขสูญเสียที่มากกว่าประชากรทั้งรัฐของรัฐอะแลสกา และรัฐนอร์ทดาโกตา
ทั้งนี้ ในค่ำวันอังคาร (14) ที่ด้านหน้ารัฐสภาสหรัฐฯ บริเวณขั้นบันไดประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี (Nancy Pelosi) รวมถึงผู้นำเสียงข้างมากสภาสูงสหรัฐฯ ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) และผู้นำเสียงข้างน้อยสภาล่างสหรัฐฯ พรรครีพับลิกัน เควิน แม็คคาธี (Kevin McCarthy) พร้อมกับสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ คนอื่นๆ ร่วมพิธีจุดเทียนไว้อาลัยให้เหยื่อโควิด-19 ในอเมริกา
ชูมเมอร์ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “ในวันนี้..พวกเราจะรำลึกว่าบุคคลอันเป็นที่รักจำนวน 800,000 คนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป พ่อที่ต้องเสียชีวิต หรือปู่ตา แม่หรือย่ายาย เพื่อนและหน้าตาที่คุ้นเคยในชุมชน” เขากล่าวและเสริมต่อว่า “พวกเราทั้งหมดรู้จักคนเหล่านี้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ต้องถูกพรากไป”
ข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอฟกินส์ในวันพุธ (15) พบว่า สหรัฐฯ มีจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 800,473 คน มียอดเคสสะสม 50,236,602 คน และมีจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 484,298,956 คน ขณะที่ทั่วโลกในวันนี้ (15) มียอดเสียชีวิตทั้งหมด 5,324,528 คน มียอดเคสสะสม 271,601,381 คน และมีคนทั่วโลกที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 จำนวน 8,536,654,426 คน
สหรัฐฯ ซึ่งกำลังเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาสเผชิญหน้ากับการระบาดโควิด-19 ระลอกที่ 5 โดยมีศูนย์กลางการระบาดอยู่ที่รัฐทางตอนเหนือที่มีความหนาวเย็นท่ามกลางความวิตกของการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
เอเอฟชี้ว่า มีจำนวนการเสียชีวิตราว 450,000 คนเกิดขึ้นในปี 2021 ถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะมีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 สูงก็ตาม โดยกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตอยู่ในกลุ่มที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน กล่าวว่า สหรัฐฯ คิดเป็น 4% ของประชากรโลกทั้งหมด แต่ทว่า 15% ของประชากรราว 5.3 ล้านคนเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 นับตั้งแต่การระบาดเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อนหน้าที่เริ่มเมื่อปลายปี 2019 ในจีน
ตัวเลขเสียชีวิต 800,000 คนในสหรัฐฯ เกิดขึ้นท่ามกลางความวิตกถึงการแพร่ระบาดจากสายพันธุ์โอมิครอน โดยผู้อำนวยการอนามัยโลก ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กรีเบรเยซุส กล่าวแสดงความเห็นเมื่อวานนี้ (14) ว่า มีกว่า 77 ประเทศทั่วโลกในปัจจุบันที่พบไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว
การเสียชีวิตของชาวอเมริกันเป็นสิ่งที่น่าเศร้าในสายตาของบรรดาผู้เชี่ยวชาญเป็นเพราะภายในประเทศมีวัคซีนโควิด-19 อย่างเพียงพอที่สามารถใช้ป้องกันพวกเขาได้
“เกือบจะทุกคนที่เสียชีวิตในเวลานี้เป็นการเสียชีวิตที่ป้องกันได้” นักโรคระบาดวิทยาประจำวิทยาลัยสาธารณสุขจอห์นฮอฟกินส์บลูมเบิร์ก ของมหาวิทยาลัยนจอห์นฮอฟกินส์ ดร.คริส เบย์เรอร์ (Dr .Chris Beyrer) กล่าวและเสริมว่า “นี่เป็นเพราะคนเหล่านี้ไม่ยอมฉีดวัคซีนเพื่อภูมิคุ้มกัน”
ทั้งนี้ เมื่อมีการเริ่มแจกวัคซีนโควิด-19 ครั้งแรก ตัวเลขผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ อยู่ที่ 300,000 คน และยอดเสียชีวิตแตะหลัก 600,000 คน อยู่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนและเพิ่มเป็น 700,000 คนเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา
เบย์เรอร์ ชี้ว่า ทั้งนี้ตัวเลขเสียชีวิตเหล่านี้ทำให้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ยังคงไม่ได้ผ่านออกไปจากวิกฤตโรคโควิด-19