เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมยูเครนแถลงความคืบหน้าล่าสุดว่า รัสเซียส่งกำลังทหารมากถึง 120,000 นาย เข้าประชิดพรมแดน ขณะที่ยุทโธปกรณ์หนักเป็นต้นว่า รถถัง ยานยนต์หุ้มเกราะ ยังคงอยู่ในพื้นที่และมีการฝึกซ้อมมากมายเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (8 ธ.ค.) ว่า แพกเกจความช่วยเหลือทางการทหารจากสหรัฐฯ ให้แก่รัฐบาลเคียฟ มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ที่รวมไปถึงอาวุธเบาและกระสุนจะเดินทางถึงประเทศในสัปดาห์นี้ และจะส่งกำลังทหารสหรัฐฯ เข้าไปในยูเครนเพื่อช่วยทำการฝึกสอน
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (9 ธ.ค.) ว่า อ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กลาโหมยูเครนเปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ ว่า ในเวลานี้รัสเซียได้เพิ่มกำลังทหารติดพรมแดนสูงสุดถึง 120,000 นาย รวมไปถึงกำลังจากกองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือของรัสเซีย
โดยแหล่งข่าวกรองทางกลาโหมของยูเครนให้ข้อมูลกับ CNN โดยชี้ว่า ในขณะเดียวกันกลับพบว่าอาวุธยุทโธปกรณ์หนักในการรบเช่น รถถัง ยานยนต์หุ้มเกราะ และมิสไซส์อิสคานเดอร์ (Iskander) ยังคงอยู่ใกล้พรมแดนหลังจากมีการซ้อมรบมากมายของกองทัพรัสเซีย
ทั้งนี้ พบว่ารัสเซียมักจะส่งกำลังพลกองกำลังเพื่อคงความตึงเครียดภายในภูมิภาค การประเมินของยูเครนชี้ เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้เกิดการโจมตีอย่างรวดเร็วและสามารถเรียกการสนับสนุนทางภาคพื้นได้อย่างฉับไว
โดยในวันจันทร์ (6) โอเลคซี เรซนิคอฟ (Oleksiy Reznikov) รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนแสดงความเห็นว่า การเพิ่มกำลังทหารบริเวณพรมแดนของรัสเซียเป็นความพยายามของเครมลินเพื่อต้องการแพร่กระจายความกลัวและความไม่สงบภายในยูเครนเพื่อป้องกันรัฐบาลเคียฟจากการเอนเอียงเข้าหานาโตหรือการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป
อ้างอิงจากการประเมินทางข่าวกรองของยูเครน พบว่า รัสเซียยังเพิ่มปฏิบัติการในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้นว่า เบลาลุส ที่มีพรมแดนติดทางเหนือของยูเครน โดยในรายงานระบุว่า ยังคงมีบางหน่วยของกองทัพรัสเซียยังคงอยู่ใกล้กับพรมแดนรัสเซียติดเบลาลุสในระยะ 260 กิโลเมตรห่างจากพรมแดนรัสเซีย
ในการข่าวเปิดเผยว่า รัสเซียเร่งรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับยูเครน พร้อมไปกับมีเครื่องบินสอดแนมจำนวนหนึ่งบินป้วนเปี้ยนอยู่ตลอดพรมแดนยูเครน เหนือทะเลดำ และทะเลอาโซฟ (Sea of Azov) เพิ่มเป็น 3 เท่าของจำนวนในปีที่ผ่านมา
CNN รายงานว่าในวันนี้ (9) มีการคาดหมายว่าประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelensky) จะหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ก่อนหน้า 1 วันที่ไบเดนออกมาปัดทางเลือกการส่งกำลังทหารสหรัฐฯ ไปป้องกันยูเครนกรณีความขัดแย้งทางทหารลุกลาม ถึงแม้ว่าในกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารที่รวมไปถึงระบบต่อต้านจรวดมิสไซส์ติดรถถังจาเวลิน (Javelin anti-tank missiles) อาวุธเบาและกระสุนปืนมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ไปให้เคียฟก็ตาม
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี (John Kirby) กล่าวว่า เป็นแพกเกจที่ไบเดนอนุมัติเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ในขณะที่เซเลนสกีเดินทางมาเยือนทำเนียบขาว
ซึ่งในวันอังคาร (7) ระหว่างการหารือร่วมกันของไบเดน และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เพื่อดับวิกฤตความตึงเครียดยูเครน-รัสเซีย ไบเดนได้เตือนปูตินเกี่ยวกับการบุกยึดยูเครน พร้อมกันนี้ รัฐบาลของเขาได้เตรียมหาช่องทางการคว่ำบาตรรัสเซียทางเศรษฐกิจให้รุนแรงมากขึ้นหากว่ากองทัพรัสเซียบุกยูเครนจริง
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้จัดส่งหน่วยรบพิเศษเพื่อช่วยเหลือการฝึกให้กองกำลังยูเครน โดยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้มีการส่งทหารแนชันแนลการ์ดรัฐฟลอริดา หน่วยพิเศษกาเตอร์ (Task Force Gator) จำนวน 150 นาย ไปยูเครนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
Joint Multinational Training Group-Ukraine แทนที่หน่วยทหารเนชันแนลการ์ดวอชิงตัน ซึ่งทีมฝึกสอนได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2015 ถูกออกแบบเพื่อเพิ่มสมรรถนะทางทหารให้ยูเครน
และนอกจากนี้ พบว่ากองบัญชาการยุโรปฝ่ายปฎิบัติการรบพิเศษ (Special Operations Command Europe) จะมีบทบาทใหญ่ในการฝึกซ้อม แต่เคอร์บีไม่ได้เปิดเผยจำนวนที่แน่นอนของทหารสหรัฐฯ ในยูเครนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง