ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เตือนประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เมื่อวันอังคาร (7 ธ.ค.) ว่า ฝ่ายตะวันตกจะบังคับใช้ “มาตรการแรงๆ ทางด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ” ต่อรัสเซีย หากมอสโกรุกรานยูเครน ขณะที่ผู้นำหมีขาวเรียกร้องการค้ำประกันว่าองค์การนาโต้จะต้องไม่ขยายตัวไปทางตะวันออกเพิ่มเติมกว่านี้อีก รวมทั้งไม่ติดตั้งระบบอาวุธโจมตีแบบรุกในประเทศต่างๆ ซึ่งอยู่ติดกับรัสเซีย
ผู้นำทั้งสองเจรจากันผ่านทางวิดีโอคอลล์เป็นเวลาราว 2 ชั่วโมงคราวนี้ โดยพูดกันทั้งเรื่องยูเครนและข้อพิพาทอื่นๆ ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สงครามเย็นสิ้นสุดลงเมื่อกว่า 30 ปีก่อน โดยที่สหรัฐฯ และฝ่ายตะวันตกกล่าวหาว่ารัสเซียชุมนุมกำลังทหารหลายหมื่นคนในบริเวณชายแดนติดต่อกับยูเครน
ด้านปูติน ตอบโต้คำเตือนด้วยการเรียกร้องกลับ ให้สหรัฐฯ และฝ่ายตะวันตกดำเนินการค้ำประกันที่ไว้วางใจได้และมีผลผูกพันทางกฎหมาย ว่านาโต้จะไม่ขยายตัวต่อไปทางตะวันออก นอกจากนั้น ผู้นำหมีขาวยังร้องโวยเรื่องที่นาโต้พยายาม “พัฒนา” ดินแดนของยูเครน ทั้งนี้ ตามคำแถลงของทางวังเครมลิน
ขณะที่ทำเนียบขาวยืนยันว่า ไบเดนไม่ได้ให้การค้ำประกันใดๆ ที่เป็นการจำกัดการขยายตัวของนาโต้ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยูเครน
“ผมจะขอบอกพวกคุณอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาว่า เขา (ไบเดน) ไม่ได้ให้คำมั่นผูกพันหรือการอ่อนข้อใดๆ ในลักษณะดังกล่าว เขายึดมั่นอยู่กับข้อวินิจฉัยที่ว่า ประเทศต่างๆ ควรจะสามารถเลือกได้อย่างเสรีว่าพวกเขาจะคบค้าสมาคมกับใครบ้าง” เจค ซุลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน แถลงกับพวกผู้สื่อข่าว
แต่ถึงไม่มีรายงานว่ามีการทำความตกลงกันชนิดที่เป็นการผ่าทางตันใดๆ กระนั้นทั้งสองฝ่ายก็เห็นพ้องกันที่จะติดต่อสื่อสารกันต่อไป ซึ่งก็ถือเป็นพัฒนาการที่อาจลดความตึงเครียดในทั่วโลกให้ต่ำลงมา
ฝ่ายวังเครมลินปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าโจมตียูเครน และระบุว่า การชุมนุมทหารในบริเวณภาคใต้ของรัสเซียที่ติดต่อกับยูเครนอยู่ในลักษณะการมุ่งป้องกันตัว ทว่าพวกชาติเพื่อนบ้านต่างพากันแสดงความระแวงเตือนภัย
ระหว่างการเจรจาเสมือนจริงครั้งนี้ ไบเดนเตือนปูตินว่าเขาอาจจะเผชิญกับการถูกแซงก์ชันทางเศรษฐกิจอย่างเข้มงวด รวมทั้งสายท่อส่งก๊าซ “นอร์ดสตรีม 2” จากรัสเซียถึงเยอรมนีก็จะประสบความติดขัด นอกจากนั้นสหรัฐฯ และเหล่าพันธมิตรในยุโรปยังจะจัดหาสมรรถนะทางทหารเพื่อการป้องกันมาเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน
ประธานาธิบดีไบเดน “พูดอย่างชัดเจนว่าสหรัฐฯ กับเหล่าพันธมิตรของตนจะตอบโต้ด้วยมาตรการแรงๆ ทางด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ในกรณีที่มีการบานปลายขยายตัวทางการทหาร” ทำเนียบขาวระบุเช่นนี้ในคำแถลง
ส่วนซุลลิแวน สำทับว่า “สิ่งต่างๆ ที่เราไม่ได้ทำเมื่อปี 2014 เราก็เตรียมที่จะนำมาทำกันในตอนนี้” ทั้งนี้เป็นการอ้างอิงถึงปฏิกิริยาของฝ่ายตะวันตกต่อการที่รัสเซียเข้ายึดเอาแหลมไครเมียจากยูเครน มาผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน
ในกรณีที่เกิดการโจมตีขึ้นมา แล้วเหล่าพันธมิตรของสหรัฐฯ ในแถบบอลติกเรียกร้องขอ “สมรรถนะ” ของสหรัฐฯ หรือ “การเคลื่อนกำลังทหาร” ของสหรัฐฯ เป็นการเพิ่มเติมแล้ว สหรัฐฯ ก็พร้อมแล้วที่จะพิจารณาตอบสนองในทางบวก ซุลลิแวนบอก
ขณะที่เจ้าหน้าที่อเมริกันผู้หนึ่งกล่าวว่า สหรัฐฯ ยังอาจพุ่งเป้าเล่นงานพวกธนาคารขนาดใหญ่ๆ ของรัสเซีย ตลอดจนเล่นงานความสามารถของมอสโกในการแลกเปลี่ยนเงินรูเบิลให้เป็นดอลลาร์ตลอดจนสกุลเงินตราอื่นๆ
สำหรับฝ่ายวังเครมลินระบุว่า ระหว่างการหารือ ปูตินบอกกับไบเดนว่าเป็นเรื่องผิดพลาดที่จะโยนความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับความตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้นเวลานี้มาให้รัสเซีย
นอกเหนือจากเรียกร้องการค้ำประกันว่านาโต้จะไม่ขยายตัวทางตะวันออกต่อไปแล้ว วังเครมลินบอกว่า ปูตินยังเรียกร้องให้มีการค้ำประกันว่า สหรัฐฯ และฝ่ายตะวันตกจะไม่นำเอาระบบอาวุธที่ใช้ในการโจมตีแบบเป็นฝ่ายรุกใดๆ เข้าไปติดตั้งประจำการในประเทศต่างๆ ซึ่งอยู่ประชดติดกับรัสเซีย
มอสโกนั้นแสดงความขุ่นเคืองมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเรื่องที่องค์การนาโต้ขยายตัวคืบคลานเข้าประชิดพรมแดนรัสเซียโดยตลอด และเรื่องที่ฝ่ายตะวันตกให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน ซึ่งเคยเป็นสาธารณรัฐหนึ่งในสหภาพโซเวียต แต่หันมาฝักใฝ่ฝ่ายตะวันตกตั้งแต่เกิดการลุกฮือก่อกบฏของประชาชนจนโค่นล้มประธานาธิบดีที่นิยมรัสเซียลงจากอำนาจเมื่อปี 2014 ท่ามกลางการกล่าวหาของมอสโกว่าการลุกฮือดังกล่าวได้รับการหนุนหลังอย่างโจ๋งครึ่มจากวอชิงตัน
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)