xs
xsm
sm
md
lg

เพนตากอนเล็งปรับทัพรับมือจีน-รัสเซีย ปักกิ่งโต้อเมริกาสร้างศัตรูในจินตนาการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้ม) หมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี 2 หมู่ของกองทัพเรือสหรัฐฯ นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน และยูเอสเอส นิมิตซ์ แปรขบวนขณะเข้ามาสำแดงแสนยานุภาพในทะเลจีนใต้เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2020
เพนตากอนเล็งส่งกำลังเพิ่มในจุดยุทธศาสตร์สำคัญเพื่อรับมือจีนและรัสเซียโดยตรง พร้อมคงกำลังในตะวันออกกลางในระดับที่เหมาะสมสำหรับการป้องปรามอิหร่านและกลุ่มนักรบญิฮาด ด้านปักกิ่งตอบโต้ทันควัน กล่าวหาเพนตากอน “สร้างศัตรูในจินตนาการ” และ “ทำทุกทางเพื่อปิดล้อมและควบคุมจีน”

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (29 พ.ย.) ว่า กระทรวงกลาโหมอเมริกัน (เพนตากอน) จะยกระดับและขยายสิ่งอำนวยความสะดวกทางการทหารในเกาะกวมและออสเตรเลีย ตอกย้ำการมุ่งเน้นความสนใจที่จีนในฐานะคู่แข่งทางการทหารที่สำคัญ

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เสริมว่า รายละเอียดของ “การทบทวนการประจำการทางทหารทั่วโลก” ที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มอบหมายให้ดำเนินการตั้งแต่เมื่อตอนต้นปีนี้จะยังคงเก็บรักษาเป็นข้อมูลลับ

ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากมีการประกาศก่อตั้งพันธมิตรทางการทหารกลุ่มใหม่ระหว่างอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย ในชื่อ “ออคัส” ด้วยเหตุผลข้ออ้างเรื่องรับมือการแผ่ขยายอิทธิพลของจีน ซึ่งสะสมเพิ่มพูนแสนยานุภาพทางนาวีมากขึ้น แม้จะยังไม่อาจเทียบเคียงสหรัฐฯ แต่วอชิงตันและพันธมิตรตะวันตกมองว่านี่เป็นการทดสอบการครอบงำทางทหารของอเมริกาที่มีเหนือเอเชียซึ่งดำเนินมานานหลายสิบปีแล้ว

กลุ่มพันธมิตรดังกล่าวจัดตั้งขึ้นขณะที่ปักกิ่งยกระดับการควบคุมเหนือทะเลจีนใต้ที่มีข้อพิพาทแย่งชิงสิทธิกับเพื่อนบ้านหลายชาติ นอกจากนั้น่ จีนยังเพิ่มความกดดันและการคุกคามทางทหารตอไต้หวัน ซึ่งมีอเมริกาเป็นพันธมิตรสำคัญและเป็นซัปพลายเออร์จัดหาอาวุธให้

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักข่าวเอเอฟพี เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เครื่องบินรบจีนรุกเข้าเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน 159 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติรายเดือนสูงสุดเป็นอันดับ 2 ขณะเดียวกันก็เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่เครื่องบินรบจีนรุกเข้าเขตซึ่งไต้หวันกำหนดขึ้นนี้เกิน 100 ลำ

มารา คาร์ลิน เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านนโยบายของเพนตากอนชี้ว่า รายงานการทบทวนนี้ตอกย้ำว่า ภูมิภาคที่มีความสำคัญอันดับแรกสำหรับกองทัพอเมริกาคืออินโด-แปซิฟิก เนื่องจากมีการสั่งการให้เพิ่มการร่วมมือกับพันธมิตรและหุ้นส่วนทั่วภูมิภาคเพื่อผลักดันแผนการริเริ่มส่งเสริมเสถียรภาพ และป้องปรามแนวโน้มการรุกรานทางทหารของจีน และภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนเมื่อวันอังคาร (30 พ.ย.) ได้ตอบโต้รายงานดังกล่าวโดยกล่าวหาเพนตากอนว่า “สร้างศัตรูในจินตนาการ” และ “ทำทุกทางเพื่อปิดล้อมและควบคุมจีน”

เจ้า ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า จีนคัดค้านเต็มที่ในการที่อเมริกาใช้ทฤษฎีการคุกคามของจีนเป็นข้ออ้างเพื่อเพิ่มงบประมาณการทหาร รวมทั้งขยายแสนยานุภาพและอำนาจครอบงำทางทหาร

นอกจากอินโด-แปซิฟิกแล้ว คาร์ลินสำทับว่า เพนตากอนยังมุ่งเสริมสร้างการป้องปรามด้วยศักยภาพปฏิบัติการที่ครอบคลุมเพื่อรับมือการรุกรานในยุโรปของรัสเซีย และช่วยให้กองกำลังขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตะวันออกกลางยังคงเป็นภูมิภาคที่เพนตากอนมองว่า ไร้เสถียรภาพ หลังสงครามยาวนานในอิรักและอัฟกานิสถาน ซึ่งคาร์ลิน เสริมว่า ด้วยความรับผิดชอบที่มีต่อทั่วโลก อเมริกาจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงศักยภาพทางทหารในตะวันออกกลาง และย้ำว่า อเมริกาสามารถส่งกำลังไปยังพื้นที่ดังกล่าวอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือการคุกคาม

เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งในเพนตากอนยืนยันว่า คณะบริหารคงยังไม่เปลี่ยนแปลงการจัดสรรกำลังอย่างถอนรากถอนโคนในปีแรก แต่สำทับว่า ทีมงานของไบเดนคิดว่า จำเป็นต้องทบทวนหลังจากคณะบริหารชุดที่แล้วของโดนัลด์ ทรัมป์ มีพฤติกรรมที่ด้อยค่าพันธมิตรและหุ้นส่วนบ่อยครั้ง ซึ่งบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือและความน่าไว้วางใจของอเมริกา

เจ้าหน้าที่เพนตากอนยังคงปฏิเสธที่จะแจกแจงว่า รายงานฉบับนี้จะมีผลอย่างไรในการประจำการของกองกำลังอเมริกันในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกาตะวันตกและตะวันออก และยุโรปตะวันออก แต่ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้มีการประกาศแผนการสับเปลี่ยนเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิด การฝึกกองกำลังภาคพื้นดิน และการเพิ่มความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ในออสเตรเลีย รวมทั้งยังมีการปรับปรุงสนามบิน คลังเชื้อเพลิง และคลังจัดเก็บกระสุนในเกาะกวม หมู่เกาะนอร์ทเทิร์นมาเรียนา และออสเตรเลีย

(ที่มา : เอเอฟพี, เอเจนซีส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น