เจ้าหน้าที่เนเธอร์แลนด์แถลงในวันอังคาร (30 พ.ย.) พวกเขาพบเคสผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอนของไวรัสโควิด-19 ย้อนกลับไปนานสุด 11 วัน บ่งชี้ว่ามันแพร่กระจายเชื้อในยุโรปตะวันตกอยู่ก่อนที่จะพบเคสผู้ติดเชื้อรายแรกในแถบพื้นที่ตอนใต้ของแอฟริกา
สถาบันสุขภาพแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ (RIVM) ระบุว่า พวกเขาพบเชื้อโอมิครอนในตัวอย่างย้อนกลับไประหว่างวันที่ 19 ถึง 23 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะพบเคสผู้ติดเชื้อในหมู่ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ ที่เข้ารับการตรวจเชื้อที่สนามบินสคิปโพลของเมืองอัมสเตอร์ดัม เมื่อวันศุกร์ (26 พ.ย.)
"มันยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าบุคคลที่เกี่ยวข้อง (ในเคสต่างๆ ก่อนหน้านี้) เคยเดินทางไปยังภูมิภาคทางใต้ของแอฟริกาด้วยหรือไม่" RIVM ระบุ พร้อมเผยว่า บรรดาบุคคลที่ติดเชื้อโอมิครอนได้รับแจ้งแล้ว และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นก็เริ่มติดตามหาผู้สัมผัสใกล้ชิดแล้วเช่นกัน
"ในช่วงเวลาข้างหน้านี้ จะมีการศึกษาต่างๆ ตรวจสอบการแพร่กระจายเชื้อของตัวกลายพันธุ์โอมิครอนในเนเธอร์แลนด์" ถ้อยแถลงของสถาบัน RIVM กล่าว พร้อมเน้นว่า พวกเขาจะดำเนินการตรวจสอบซ้ำตัวอย่างต่างๆ เพิ่มเติมจากผลตรวจโควิด-19 ก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน
เบลเยียมและเยอรมนีระบุเช่นกันว่า จากการตรวจสอบตัวอย่าง ยืนยันว่าตัวกลายพันธุ์โอมิครอนอยู่ในทั้ง 2 ประเทศ ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแอฟริกาใต้แจ้งเตือนต่อทั่วโลกในวันที่ 24 พฤศจิกายน เกี่ยวกับการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์ใหม่โควิด-19
พวกนักวิทยาศาสตร์แอฟริกาใต้ได้รับการยกย่องสำหรับการตรวจพบตัวกลายพันธุ์ใหม่เป็นคนแรก และได้แจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามั เวลานี้ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดไปยงประเทศอื่นๆ อีกราว 20 แห่ง และท่ามกลางความกังวลว่ามันอาจแพร่เชื้อได้ง่าย มีความสามารถในการหลบหลีกวิธีรักษาหรือวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้หลายประเทศกำหนดข้อจำกัดด้านการเดินทางกับพวกผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคทางใต้ของแอฟริกา
บรรดานักการเมืองและนักวิทยาศาสตร์แอฟริกาใต้ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขารู้สึกเหมือนถูกลงโทษต่อโปรแกรมคัดกรองโควิด-19 ทันสมัยของพวกเขา ซึ่งสามารถตรวจพบตัวกลายพันธุ์โอมิครอน จนสามารถแจ้งเตือนประเทศอื่นๆ อย่างรวดเร็ว แต่ผลลัพธ์คือประเทศต่างๆ ในแถบทางใต้ของแอฟริกากลับต้องมาเจอมาตรการแบนด้านการเดินทาง
ญี่ปุ่นและฝรั่งเศสยืนยันพบเคสผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้รายแรกในวันอังคาร (30 พ.ย.) ในขณะที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกดิ้นรนปิดประตูไม่ต้อนรับชาวต่างชาติ และพวกนักวิทยาศาสตร์เร่งมือทดสอบวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันกับตัวกลายพันธุ์โอมิครอน
จนถึงวันอังคาร (30 พ.ย.) ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าตัวกลายพันธุ์โอมิครอนจะทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการหนักกว่าตัวกลายพันธุ์อื่นๆ หรือไม่ แต่องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ตัวกลายพันธุ์ล่าสุดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อพุ่งพรวดขึ้นในหมู่นานาประเทศ
(ที่มา : ซีบีเอส)