เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเนเธอร์แลนด์ระบุในวันอาทิตย์(28พ.ย.) ว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์ "โอไมครอน" 13 ราย ในบรรดาผู้โดยสารบน 2 เที่ยวบินที่บินมาจากแอฟริกาใต้และมาถึงท่าอากาศยานสคิปโพลของเมืองอัมสเตอร์ดัมในวันศุกร์(26พ.ย.)
ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 13 รายดังกล่าวเป็นหนึ่งในบรรดาผู้โดยสาร 61 คนที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกบน 2 เที่ยวบิน ซึ่งบรรทุกบรรดาผู้โดยสารและลูกเรือรวมกันราวๆ 600 คน และเหล่าคนที่มีผลตรวจเป็นบวกนั้นถูกกักโรคที่โรงแรมแห่งหนึ่งใกล้กับสนามบิน
"ในการสืบสวนถอดรหัสพันธุกรรม(ไวรัส)ของเรา ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ จนถึงตอนนี้พบแล้ว 13 เคสตัวกลายพันธุ์โอไมครอนในบรรดาผู้โดยสารที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก" สถาบันสุขภาพแห่งชาติเนเธอร์แลนด์(RIVM)ระบุในถ้อยแถลง
"มีความเป็นไปได้ที่จะมีเคสเพิ่มเติมปรากฏในเนเธอร์แลนด์" ฮูโก เดอ จอง รัฐมนตรีสาธารณสุขเนเธอร์แลนด์กล่าวระหว่างแถลงข่าวในกรุงร็อตเตอร์ดัม "มันมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นยอดของภูเขาน้ำแข็ง"
ทีมสืบสวนเนเธอร์แลนด์เริ่มทำการตรวจเชื้อนักเดินทางทุกคนที่เดินทางมาบนเที่ยวบิน 2 เที่ยวที่มุ่งหน้ามาจากแอฟริกาใต้ ณ ท่าอากาศยานสคิปโพลเมื่อวันศุกร์(26พ.ย.) ก่อนหน้ารัฐบาลเนเธอร์แลนด์จะกำหนดข้อจำกัดด้านการสัญจรทางอากาศจากแอฟริกาใต้ สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์ตัวดังกล่าว
การตรวจพบตัวกลายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกขึ้นบัญชีในฐานะ "สายพันธุ์ที่น่ากังวล" จุดชนวนความวิตกไปทั่วโลกว่ามันอาจดื้อต่อวัคซีนและทำให้วิกฤตโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี ลากยาวออกไปอีก
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเนเธอร์แลนด์ยังกำลังอยู่ระหว่างหาทางติดต่อและตรวจเชื้อผู้โดยสารคนอื่นๆอีกราว 5,000 คน ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ บอตสวานา เอสวาตินี เลโซโท โมซัมบิก นามิเบียและซิมบับเว นับตั้งแต่วันจันทร์ที่แล้ว(22พ.ย.)
ความกังวลเกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้มีขึ้นในขณะที่บรรดาชาติยุโรปหลายประเทศกำลังเผชิญกับเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่กลับมาพุ่งขึ้นอีกรอบ
ในเนเธอร์แลนด์ กฎระเบียบต่างๆที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันอาทิตย์(28พ.ย.) ได้สั่งปิดบาร์ ร้านอาหารและห้างต่างๆเกือบทั้งหมด ปิดบริการตอนเวลา 23.00น. ในความพยายามสกัดระลอกคลื่นเคสผู้ติดเชื้อที่แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ซึ่งกำลังก่อภาระหนักอึ้งแก่ระบบสาธารณสุขของประเทศ
(ที่มา:รอยเตอร์)