สิงคโปร์และมาเลเซีย ผ่อนปรนข้อจำกัดด้านการเดินทางในพรมแดนภาคพื้นที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในวันจันทร์(29พ.ย.) หลังจากกำหนดมาตรการเข้มงวดมานานเกือบ 2 ปี อนุญาตให้คนฉีดวันซีนบางส่วนข้ามชายแดนระหว่างกันโดยไม่ต้องกักโรค
ก่อนหน้าโรคระบาดใหญ่ มีประชาชนเดินทางข้ามจากมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ราวๆ 300,000 คนในแต่ละวัน เพื่อไปทำงานในภาคส่วนต่างๆ ไล่ตั้งแต่ระบบขนส่งสาธารณะไปจนถึงผลิตไฟฟ้า
แต่การเดินทางเกือบทั้งหมดหยุดชะงักเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน ส่งผลให้คนที่เดินทางข้ามไปมาและชาวมาเลเซียคนอื่นๆที่พำนักอยู่ในสิงคโปร์ ต้องติดค้างอยู่ที่นั่น เนื่องจากพวกเขายังต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่วันจันทร์(29พ.ย.) เป็นต้นไป พลเมืองสิงคโปร์และชาวมาเลเซียที่ฉีดวัคซีนแล้ว คนที่ถือครองสถานะผู้พักอาศัยถาวรและคนที่มีใบอนุญาตงาน สามารถเดินทางข้ามทางข้ามระยะทาง 1 กิโลเมตรที่กั้นระหว่างสองประเทศ โดยไม่ต้องถูกกักโรคใดๆ
"ฉันมีความสุขมากที่จะได้กลับไป และในที่สุดก็จะได้พบหน้าครอบครัวหลังไม่ได้เจอกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว" Eunice Teoh ชาวมาเลเซียที่ขึ้นรถบัสเที่ยวแรกจากสิงคโปร์ ภายใต้มาตรการดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
"ฉันรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อยเพราะว่ามันเป็นชุดแรก และฉันไม่ค่อยแน่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป" หญิงสาววัย 28 ปีที่ทำงานด้านการเงินกล่าว ในขณะที่เธอำกลังมุ่งหน้ากลับสู่รัฐปาหังของมาเลเซีย
เบื้องต้นรถบัสบริการพิเศษข้ามพรมแดนจะสามารถรองรับประชาชนได้ราวๆ 3,000 คนต่อวัน และทุกคนจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 เสียก่อน
เจ้าหน้าที่เผยว่าในระยะแรกนี้มีเป้าหมายคือพวกคนงานทั้งหลายที่ไม่ได้พบปะหน้าครอบครัวมาเป็นเวลานาน และจากนั้นก็มีแผนขยายโครงการครอบคลุมกลุ่มอื่นๆ
นอกจากนี้แล้วในวันจันทร์(22พ.ย.) ยังได้มีการผ่อนปรนข้อจำกัดด้านการสัญจรทางอากาศเช่นกัน โดยคนที่ฉีดวัคซีนแล้วได้รับอนุญาตให้บินระหว่างท่าอากาศยานหลักของ 2 ประเทศโดยไม่ต้องเข้ารับการกักโรค
ก่อนหน้าที่จะมีการผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ พลเมืองและกลุ่มคนอื่นๆบางส่วนยังคงได้รับอนุญาตให้เดินทางระหว่าง 2 ประเทศ แต่พวกเขาจำเป็นต้องเข้ารับการกักตัวเมื่อเดินทางไปถึง
ทั้งสองประเทศมีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูง การแพร่ระบาดของสิงคโปร์ต่ำกว่ามาตรฐานโลก ผิดกับมาเลเซียที่เผชิญกับระลอกการแพร่ระบาดรุนแรงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อันมีต้นตอจากตัวกลายพันธุ์เดลตา
สิงคโปร์ มีประชากรเพียงแค่ 5.5 ล้านคน ดังนั้นชาวมาเลเซียจึงเป็นส่วนสำคัญในภาคแรงงานของสิงคโปร์มาช้านาน และโดยทั่วไปแล้วชาวมาเลเซียที่เดินทางมาทำงานในสิงคโปร์นั้น มักได้รับเงินเดือนสูงกว่าที่บ้านเกิดเมืองนอน
(ที่มา:เอเอฟพี)
