อิสราเอลงดรับชาวต่างชาติเข้าประเทศ และมอบหมายให้หน่วยข่าวกรองทำหน้าที่ค้นหาและติดตามนักเดินทางทุกคนที่มาจากดินแดนที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์ "โอไมครอน" ถือเป็นคำสั่งแบนการเดินทางที่เข้มงวดที่สุดในโลก ของชาติที่มีอัตราการฉีดวัคซีนเป็นลำดับต้นๆ
กฎระเบียบใหม่นี้ที่มีผลบังคับใช้เมื่อคืนวันอาทิตย์(28พ.ย.) ส่งผลให้อิสราเอลกลายเป็นประเทศแรกที่ปิดชายแดนโดยสิ้นเชิงไม่ต้อนรับนักเดินทางต่างชาติเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน ตามหลังการประชุมฉุกเฉินของคณะทำงานด้านไวรัสโคโรนา โดยมีเพียงบุคคลที่ได้รับอนุมัติเป็นกรณีพิเศษจากคณะกรรมการชุดหนึ่งที่เรียกว่าคณะกรรมการยกเว้น(Exceptions Committee) เท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ
"รัฐบาลอิสราเอลกำลังทำงานอย่างรวดเร็วและขอบคุณจริงๆต่อข้อสรุปกฎเกณฑ์ต่างๆ ตามหลังการฝึกซ้อมระดับชาติ Omega Drill ซึ่งจำลองสถานการณ์ต่างๆนานาเกี่ยวกับการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์ใหม่ๆ" นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ กล่าวอ้างถึงการฝึกซ้อมระดับชาติเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เพื่อประเมินและทดสอบความพร้อมของอิสราเอลสำหรับรับมือกับการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ใหม่ๆของโควิด-19
พลเมืองอิสราเอลทุกคนที่เดินทางกลับจากต่างแดน แม้กระทั่งคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มหรือฉีดเข็มกระตุ้นแล้ว จะถูกบังคับให้เข้ารับการกักโรคเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน ส่วนคนที่มาจากประเทศ "สีแดง" จะต้องพักอยู่ในโรงแรมต่างๆที่ดูแลโดยทหารไปจนกว่าพวกเขาจะมีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นลบ 2 รอบ
ส่วนพลเมืองอิสราเอลรายใดก็ตามที่เดินทางไปเยือนประเทศใดประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกาในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ถูกเร่งเร้าให้รีบดำเนินการตรวจเชื้อและกักกันโรคโดยสมัครใจ ในขณะที่ชินเบ็ท หน่วยงานความมั่นคงภายใน รับหน้าที่ใช้ข้อมูลระบุตำแหน่งบนมือถือช่วยต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ ด้วยวิธีการติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และแจ้งให้บุคคลอื่นๆรับทราบว่ามีใครที่ต้องกักโรคบ้าง
มาตรการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดอันเป็นที่ถกเถียงนี้เคยถูกใช้งานครั้งแรกระหว่างการแพร่ระบาดช่วงต้นๆของโควิด-19 ในปี 2020 ทว่านับตั้งแต่นั้นศาลสูงวินิจฉัยว่าโครงการนี้ไม่มีความชอบธรรม
ความเคลื่อนไหวเข้มงวดล่าสุดมีขึ้นหลังจากอิสราเอลยืนยันพบผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ B.1.1.529 หรือ โอไมครอน แล้ว 1 รายและอีกมีเคสต้องสงสัยอีก 7 คน
ตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้ถูกพบเป็นครั้งแรกในบอตสวานาเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา และระหว่างการประชุมฉุกเฉินในวันศุกร์(26พ.ย.) องค์การอนามัยโลกประกาศอย่างเป็นทางการกำหนดให้มันเป็น "สายพันธุ์ที่น่ากังวล" และตั้งชื่อมันว่า "โอไมครอน"
ความกังวลที่มากขึ้นเกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์โอไมครอน โหมกระพือมาตรการแบนการเดินทางทั่วโลก ด้วยเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้และประเทศเพื่อนบ้านหลายชาติถูกห้ามบินเข้าประเทศต่างๆขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้จนถึงตอนนี้ยังคงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้เพียงน้อยนิด แต่พวกผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกต่างส่งเสียงแห่งความกังวลต่อกรณีที่มันมีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่ง และมีความเป็นไปได้ที่มันจะแพร่เชื้อได้ง่ายมาก
อิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆของโลกที่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อปีที่แล้ว ต้องขอบคุณข้อตกลงกับไฟเซอร์ ซึ่งเปิดทางให้พวกเขาเข้าถึงวัคซีนหลายล้านโดสแลกกับข้อมูลประสิทธิภาพของวัคซีน
โครงการฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคของพวกเขาเป็นหนึ่งในชาติที่มีอัตราการฉีดรวดเร็วที่สุดประเทศหนึ่งในโลก และจนถึงตอนนี้มีประชากรมากกว่า 5.7 ล้านคนจากทั้งหมด 9 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว
(ที่มา:รัสเซียทูเดย์/เอเอฟพี)