ซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ประณามมาตรการห้ามการเดินทางที่ทั่วโลกบังคับใช้กับประเทศของเขาและบรรดาชาติเพื่อนบ้าน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์"โอไมครอน" ระบุ "ผิดหวังอย่างยิ่ง" ในความเคลื่อนไหวที่เขาให้คำจำกัดความว่า "ไม่ชอบธรรม" และเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งแบดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
สหราชอาณาจักร อียูและสหรัฐฯเป็นหนึ่งในบรรดาดินแดนต่างๆที่กำหนดข้อจำกัดด้านการเดินทางกับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศต่างๆในภูมิภาคตอนใต้ของทวีแแอฟริกา สืบเนื่องจากพบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์โอไมครอน ที่ทางองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็น "สายพันธุ์ที่น่ากังวล"
แอฟริกาใต้รายงานการพบสายพันธุ์โอไมครอนซึ่งมีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่ง ไปยังองค์การอนามัยโลก(WHO)เมื่อวันพุธ(24พ.ย.) และหลักฐานต่างๆในเบื้องต้นบ่งชี้ว่ามันมีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ
ตัวกลายพันธุ์นี้อยู่เบื้องหลังเคสผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมดในกัวเตง จังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของแอฟริกาใต้ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และตอนนี้พบในจังหวัดอื่นๆทั้งหมดทั่วประเทศแล้ว
แม้ว่าองค์การอนามัยโลกจะไม่เห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวของประเทศต่างๆที่เร่งรีบออกข้อจำกัดด้านการเดินทางเร็วเกินไป โดยบอกว่าควรพิจารณาบนพื้นฐานของความเสี่ยงและแนวทางทางวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตามหลายประเทศทั่วโลกได้บังคับใช้มาตรการแบนด้านการเดินทางในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์โอไมครอน
ในถ้อยแถลงเมื่อวันอาทิตย์(28พ.ย.) รามาโฟซา ระบุมาตรการแบนด้านการเดินทางไม่มีอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และประณามว่าภูมิภาคทางใต้ของแอฟริกาเป็นเหยื่อของการเลือกปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรม
นอกจากนี้แล้วเขายังโต้แย้งว่าคำสั่งแบนด้านการเดินทางจะไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ "สิ่งเดียวที่จะเกิดขึ้นกับคำสั่งห้ามการเดินทางก็คือมันจะก่อความเสียหายเพิ่มเติมแก่เศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่ได้รับผลกระทบ และบ่อนทำลายศักยภาพของพวกเขาในการตอบสนองและพื้นตัวจากโรคระบาดใหญ่"
เขาเรียกร้องประเทศต่างๆที่บังคับใช้คำสั่งแบนด้านการเดินทางไปแล้ว ให้ "กลับลำการตัดสินใจอย่างเร่งด่วน ก่อนมันจะก่อความเสียหายเพิ่มเติมแก่เศรษฐกิจของพวกเรา"
รามาโฟซา ระบุด้วยว่าการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์โอไมครอน เป็นสัญญาณเตือนทั่วโลกสำหรับเสียงเรียกร้องในเรื่องความเท่าเทียมทางวัคซีน และเตือนว่าจนกว่าทุกคนจะได้ฉีดวัคซีน การกลายพันธุ์เพิ่มเติมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในส่วนของแอฟริกาใต้นั้น ไม่ได้ขาดแคลนวัคซีน และทาง รามาโฟซา เรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนมากขึ้น ระบุว่ามันยังเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับไวรัส
ถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ของกระทรวงการต่างประเทศแอฟริกาใต้ที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์(27พ.ยย.) ก็วิพากษ์วิจารณ์มาตรการแบนด้านการเดินทางเช่นกัน ระบุว่าประเทศของพวกเขากำลังโดนลงโทษ แทนที่จะได้รับเสียงชื่นชมสำหรับการค้นพบตัวกลายพันธุ์โอไมครอน
เวลานี้ โอไมครอน ถูกพบในประเทศต่างๆมากมายหลายชาติทั่วโลก ในนั้นรวมถึงสหราชอาณาจักร เยอรมนี ออสเตรเลียและอิสราเเอล
(ที่มา:บีบีซี)