สหรัฐฯเมื่อวันเสาร์(27พ.ย.) ยกย่องแอฟริกาใต้ สำหรับการตรวจพบอย่างรวดเร็วตัวกลายพันธุ์ใหม่ "โอไมครอน" ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และแบ่งปันข้อมูลนี้กับนานาชาติ ท่าทีที่กระทบกระเทียบเหน็บแนมจีน เกี่ยวกับแนวทางการรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสาายพันธุ์ใหม่ตัวดั้งเดิม
แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯได้พูดคุยกับ นาเลดี แพนเดอร์ รัฐมนตรีกระทรวงความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของแอฟริกาใต้ และหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือในการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แก่ผู้คนในแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศอเมริการะบุในถ้อยแถลง
"ท่านรัฐมนตรีบลินเคนยกย่องอย่างเฉพาะเจาจงพวกนักวิทยาศาสตร์แอฟริกาใต้สำหรับการระบุตัวกลายพันธุ์โอไมครอนอย่างรวดเร็ว และรัฐบาลของแอฟริกาใต้ดำเนินการด้วยความโปร่งใสแบ่งปันข้อมูลนี้ ซึ่งจะถูกใช้เป็นต้นแบบสำหรับโลก" ถ้อยแถลงระบุ
ภายใต้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และปัจจุบันภายในรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน สหรัฐฯวิพากษ์วิจารณ์จีนซ้ำๆ ฐานไม่เต็มใจให้ข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งตรวจพบครั้งแรกที่เมืองอูฮั่น ประเทศจีน ในเดือนธันวาคม 2019 ก่อนระบาดลุกลามไปทั่วโลก และเวลานี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 5.2 ล้านราย
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯเผยแพร่รายงานฉบับหนึ่ง ระบุว่าไม่สามารถบรรลุข้อสรุปที่หนักแน่นเกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัส สืบเนื่องจากจีนไม่ยอมให้ความร่วมมือช่วยเหลือในการตรวจสอบของสหรัฐฯ
นอกจากนี้แล้วสหรัฐฯยังกล่าวหาจีน ว่ารอนานเกินไปกว่าจะแบ่งปันข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการแพร่ระบาด โดยระบุว่าหากมีการรับมือที่โปร่งใสกว่านี้ก็อาจช่วยหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้
หลังจากสหรัฐฯเผยแพร่รายงาน ไบเดนออกมากล่าวหาปักกิ่งว่านิ่งเฉยหลบหลีกคำถาม "โลกสมควรได้รับคำตอบ และเราจะไม่หยุดพักจนกว่าเราจะได้รับคำตอบ" ไบเดนระบุในถ้อยแถลง หลังรายงานลับสุดยอดถูกเผยแพร่ออกมา "ประเทศผู้รับผิดชอบไม่อาจบอกปัดความรับผิดชอบนี้ไปยังชาติอื่นๆของโลก"
โรคระบาดใหญ่กลายเป็นหนึ่งในบ่อเกิดแห่งความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน ในขณะที่ 2 ชาติมหาอำนาจกระทบกระทั่งกันทั้งในด้านการค้า สิทธิมนุษยชน ไต้หวันและประเด็นอื่นๆ
(ที่มา:เอเอฟพี)