เยอรมนีมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทะลุ 100,000 คนในวันพฤหัสบดี(25พ.ย.) ในขณะที่เคสผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ 75,000 คนต่อวัน เป็ยปัญหาท้าทายรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังเข้ามาทำหน้าที่แทนรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล
ข้อมูลจากสถาบันโรเบิร์ต คอช ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสาธารณสุขของเยอรมนี ระบุว่าพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มอีก 351 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นเพิ่มเป็น 100,119 คน ขณะที่เคสผู้ติดใหม่รายวันอยู่ที่ 75,961 คน ทุบสถิติสูงสุดรอบใหม่
"วันที่เราต้องไว้อาลัยแก่เหยื่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 100,000 คน เป็นวันที่น่าเศร้า" นางอังเกลา แมร์เคิล ที่กำลังพ้นจากตำแหน่งกล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมเรียกร้องให้ผู้ที่เข้ามาสืบทอดตำแหน่ง ลงมืออย่างรวดเร็วในการกำหนดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพิ่มเติม เพื่อตัดวงจรการขยายตัวทวีคูณของไวรัส
"ผู้คนที่ล้มป่วยในวันนี้จะเป็นฐานของคนไข้ห้องไอซียูในช่วง 10 ถึง 24 วันข้างหน้า" เธอกล่าว "ดังนั้น มันสำคัญยิ่งที่เราต้องทำให้แน่ใจว่าโรงพยาบาลต่างๆของเราจะไม่แบกรับภาระจนล้น"
โรงพยาบาลต่างๆในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของเยอรมนี กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันและ คริสเตียน ดรอสเทน นักไวรัสวิทยาชั้นนำ เตือนว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดใหญ่อีก 100,000 คน
ผู้อำนวยการสถาบันโรเบิร์ต คอช ระบุอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 0.8% นั่นหมายความว่าหากเคสผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ที่ราวๆ 50,000 คน จะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 400 คนในแต่ละวัน
ว่าที่รัฐบาลใหม่ของเยอรมนี ซึ่งแถลงบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลในวันพุธ(24พ.ย.) ระบุว่าจะจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญ ที่จะมีหน้าที่คอยประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน
แอนนาลีน่า แบร์บอค ผู้นำร่วมของพรรคกรีนส์ ระบุว่ารัฐบาลใหม่ซึ่งประกอบด้วยพรรคโซเชียล เดโมแครตส์(เอสพีดี) พรรคกรีนส์และพรรคฟรีเดโมแครตส์(เอฟดีพี) กำหนดกรอบเวลาให้ตนเอง 10 วัน ในการตัดสินใจว่าจะจำเป็นต้องออกข้อจำกัดต่างๆเพิ่มเติมหรือไม่ ในขณะที่ผูู้คนบางส่วน ซึ่งในนั้นรวมถึงพันธมิตรอนุรักษ์นิยมของแมร์เคิลบางคน เรียกร้องให้รีบดำเนินการเร็วกว่านั้น
ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยอรมนีกำหนดกฎระเบียบต่างๆอยู่ก่อนแล้ว ในการจำกัดการเข้าถึงกิจกรรมในร่ม เฉพาะกับบุคคลที่ฉีดวัคซีนแล้วหรือเพิ่งหายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19
คริสเตียน ลินด์เนอร์ ผู้นำพรรคเอฟพีดี ระบุว่าบางทีการยกระดับข้อจำกัดเข้มข้นขึ้นในระดับภูมิภาคอาจมีความจำเป็นหากสามารถช่วยหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ อย่างเช่นในประเทศเพื่อนบ้านอย่างออสเตรีย
จนถึงตอนนี้เยอรมนีมีอัตราการฉีดวัคซีนเพียง 68.2% ห่างไกลจากประเทศยุโรปบางส่วนอย่างโปรตุเกสและสเปน และ โอลาฟ ชูล์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรี สัญญาว่าจะยกระดับการฉีดวัคซีนและไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะต้องถึงขั้นบังคับ
(ที่มา:รอยเตอร์)
