ประชาชนหลายพันคน จำนวนมากผู้พวกผู้สนับสนุนฝ่ายขวาจัด ชุมนุมในกรุงเวียนนาเมื่อวันเสาร์(20พ.ย.) ประท้วงต่อต้านข้อจำกัดสกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หนึ่งวันหลังจากรัฐบาลออสเตรียประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่และบอกว่าจะบังคับฉีดวัคซีนปีหน้า
ผู้คนพากันผิวปาก ปรบมือ บีบแตรและตีกลอง ระหว่างไหลบ่าเข้าสู่จัตุรัสฮีโรส์ บริเวณด้านหน้าวังโฮฟบวร์ค อดีตพระราชวังในย่านในกลางกรุงเวียนนา นอกจากนี้แล้วยังพบเห็นผู้ประท้วงหลายคนโบกธงชาติออสเตรียและธงอื่น ชูป้ายข้อความต่างๆนานา อาทิ "ไม่เอาวัคซีน" และ "ไม่เอาอีกแล้ว" หรือ "ไปตายซะเผด็จการฟาสซิสต์"
พลเมืองออสเตรียฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบเข็มแล้วคิดเป็นสัดส่วนราว 66% หนึ่งในชาติที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุดในยุโรปตะวันตก ชาวออสเตรียจำนวนมากคลางแคลงใจต่อวัคซีน มุมมองที่ได้รับการหนุนหลังจากพรรคเสรีภาพ พรรคขวาจัดที่มีจำนวนส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในรัฐสภา
หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันยังคงทุบสถิติสูงสุดต่อเนื่อง แม้กระทั่งหลังจากกำหนดล็อกดาวน์สำหรับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรียระบุในวันศุกร์(19พ.ย.) ว่าจะนำออสเตรียคืนสู่ล็อกดาวน์เต็มรูปแบบในวันจันทร์(22พ.ย.) และจะบังคับฉีดวัคซีนนับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป
เดิมทีพรรคเสรีภาพ มีแผนชุมนุมโชว์พลังในกรุงเวียนนาอยู่ก่อนแล้วในวันเสาร์(20พ.ย.) และครั้นที่ถ้อยแถลงของรัฐบาลในวันศุกร์(19พ.ย.) ก่อความเดือดดาลแก่ฐานเสียงของพวกเขา มันกระตุ้นให้ เฮอร์เบิร์ต คิคเคิล หัวหน้าพรรคเสรีภาพ ออกมาตอบโต้ว่า "จนกระทั่งวันนี้ ออสเตรียคือเผด็จการ"
แม้ คิคเคล ไม่ได้เข้าร่วมชุมนุมสืบเนื่องจากเขาติดเชื้อโควิด-19 แต่ประชาชนหลายพนคนขานรับเสียงเรียกร้องของทางพรรคเสรีภาพและกลุ่มต่อต้านวัคซีนอื่นๆ ในการออกมาประท้วงทั่วกรุงเวียนนาในครั้งนี้
(ที่มา:รอยเตอร์)