ออสเตรียกำลังกำหนดให้ประชาชนหลายล้านคนที่ยังไม่ฉีดวัคโควิด-19และฉีดยังไม่ครบเข็ม อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันจันทร์(15พ.ย.) เป็นต้นไป เพื่อจัดการกับเคสติดเชื้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด และสถานการณ์ความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆในแผนกไอซียูตามโรงพยายาลต่างๆ จากการเปิดเผยของรัฐบาลในวันอาทิตย์(14พ.ย.)
ยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 อีกครั้ง กระตุ้นให้รัฐบาลบางชาติต้องพิจารณากลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ แม้ไม่เป็นที่นิยม ในนั้นรวมถึง ออสเตรีย หนึ่งในประเทศที่มีอัตราผู้ติดเชื้อสูงสุดของทวีป ค่าเฉลี่ย 7 วันของอัตราอุบัติการณ์(Incidence Rate)อยู่ที่ 815 รายต่อประชากร 100,000 คน
ความเคลื่อนไหวล่าสุด ส่งผลให้ออสเตรียกลายเป็นชาติแรกของยุโรปที่คืนสู่ข้อบังคับต่างๆนานาแบบเดียวกับที่เคยใช้จำกัดความเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันระหว่างมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศครั้งที่ผ่านๆมาก่อนมีการกระจายวัคซีน แต่คราวนี้มีผลบังคับใช้ครอบคลุมกับคนส่วนน้อยของประชากรเท่านั้น
"เราไม่ได้ใช้ก้าวย่างนี้เล่นๆ มันมีความจำเป็น" นายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ ชาลเลนเบิร์ก กล่าวระหว่างแถลงข่าวมาตรการใหม่ ซึ่งบุคคลที่ยังไม่ฉีดวัคซีนจะสามารถออกนอกบ้านอย่างจำกัด เฉพาะกับเหตุผลบางอย่าง อาทิไปทำงานหรือไปจับจ่ายซื้อข้าวของที่จำเป็น
จนถึงตอนนี้มีประชาชนชาวออสเตรียฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบเข็มแล้วคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 65% ของจำนวนประชากร หนึ่งในอัตราต่ำที่สุดในยุโรปตะวันตก ชาวออสเตรียจำนวนมากคลางแคลงใจต่อวัคซีน มุมมองที่ถูกยุยงโดยฟรีดอม ปาร์ตี พรรคการเมืองขวาจัด ซึ่งมีจำนวนส.ส.ในรัฐสภามากที่สุดเป็นอันดับ 3
มาตรการในวันจันทร์(15พ.ย.) ถือเป็นการขยายขอบเขตมาตรการต่างๆที่บังคับใช้เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ซึ่งห้ามคนยังไม่ฉีดวัคซีนเข้าไปในสถานที่ต่างๆ ในนั้นรวมถึงร้านอาหาร โรงแรม โรงภาพยนตร์และกระเช้าสกี
ในขณะที่เนเธอร์แลนด์กำลังจัดการเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นด้วยการกำหนดล็อกดาวน์บางส่วนซึ่งบังคับใช้กับพลเมืองทุกคน แต่รัฐบาลที่นำโดยฝ่ายอนุรักษ์นิยมของออสเตรีย ต้องการหลีกเลี่ยงกำหนดข้อจำกัดเพิ่มเติมกับบุคคลที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว
"ข้อเท็จจริงคือ เราได้แจ้งประชากร 1 ใน 3 ว่าคุณจะไม่สามารถออกจากที่พักของคุณได้อีกต่อไป ยกเว้นแต่ในเหตุผลบางประการ มาตรการนี้ช่วยอย่างมากในการลดการติดต่อระหว่างบุคคลที่ฉีดวัคซีนแล้วกับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน" ชาลเลนเบิร์กกล่าว
เบื้องต้นมาตรการล็อกดาวน์ของออสเตรียจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 10 วัน แต่จะไม่บังคับใช้กับบุคคลอายุต่ำกว่า 12 ปีหรือคนที่หายป่วยจากโควิด-19 เมื่อไม่นานมานี้
เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ในนั้นรวมถึงภายในพรรคการเมืองของชาลเลนเบิร์กเองและตำรวจ แสดงความคลางแคลงใจว่ามาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะสามารถบังคับใช้อย่างเหมาะสม เนื่องจากมันกำหนดใช้กับประชากรบางส่วนเท่านั้น
คาร์ล เนแฮมเมอร์ รัฐมนตรีมหาดไทยระบุว่ามาตรการนี้จะดำเนินการผ่านการตรวจตราของตำรวจและปรับเงินสูงสุด 1,450 ยูโร(ประมาณ 54,000บาท) สำหรับผู้ฝ่าฝืน และการทำงานร่วมกับตำรวจนั้น จะรวมไปถึงการตรวจสอบสถานะฉีดวัคซีนของประชาชน
"ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ พลเมืองทุกคน บุคคลทุกคนที่พักอาศัยอยู่ในออสเตรีย จำเป็นต้องทราบว่าพวกเขาสามารถถูกตรวจสอบโดยตำรวจ" เนแฮมเมอร์กล่าว พร้อมระบุว่าการแสดงบัตรผ่านโควิดอย่างเป็นทางการที่พิสูจน์ว่าฉีดวัคซีนแล้ว หายป่วยจากโควิด-19 หรือมีผลตรวจเป็นลบเมื่อเร็วๆนี้ เป็นสิ่งจำเป็นในอีกหลายเดือนข้างหน้า ตามสถานที่ต่างๆ อาทิเช่นร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ คาเฟ่และร้านทำผม
(ที่มา:รอยเตอร์)