ราคาน้ำมันปิดผสมผสานในวันอังคาร(16พ.ย.) หลังไออีเอคาดภาวะอุปทานตึงตัวอาจคลี่คลาย ส่วนวอลล์สตรีทปรับขึ้น จากแรงหนุนรายงานผลประกบการบริษัทและข้อมูลค้าปลีก ขณะที่ทองคำขยับลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 80.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ ปิดที่ 82.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯมีกำหนดเผยแพร่รายงานคลังปิโตรเลียมสำรองรายสัปดาห์ในวันพุธ(17พ.ย.) ด้วยนักวิเคาะห์คาดหมายว่าน่าจะเพิ่มขึ้นราวๆ 1.4 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งทบวงพลังงานสากล(ไออีเอ) คาดการณ์ว่าการดีดตัวของตลาดน้ำมันอาจคลี่คลาย เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นจะเป็นแรงจูงใจให้ประเทศต่างๆเพิ่มกำลังผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ
ไออีเอ คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนต์จะปรับลดลงสู่ระดับราวๆ 71.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีนี้ และอยู่ที่ 79.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2022
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(16พ.ย.) ปิดในแดนบวก จากรายงานผลประกอบการของโฮม ดีโปต์ และข้อมูลค้าปลีกที่ส่งสัญญาณการบริโภคแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันนักลงทุนคลายกังวลว่าเฟดอาจใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้นในการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 54.77 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 36,142.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 18.10 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,700.90 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 120.01 จุด (0.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,973.85 จุด
ข้อมูลเผยให้เห็นตัวยอดค้าปลีกในสหรัฐฯดีดตัวขึ้น 1.7% ในเดือนตุลาคม ถือเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมและเหนือกว่าที่คาดหมายไว้ว่าจะอยู่ที่ราวๆ 1.4% บ่งชี้ว่าชาวอเมริกันเริ่มฤดูกาลช็อปปิ้งก่อนเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงขาดแคลนสินค้าท่ามกลางปัญหาอุปทานตึงตัว
โฮม ดีโปต์ อิงค์ บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ พุ่งทะยานปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดีดตัวขึ้นคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 หลังรายงานมียอดขายรายไตรมาสเกินคาดหมายเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุดฉุดให้ทองคำแกว่งตัวปรับลดในวันอังคาร(16พ.ย.) หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายดีดตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 12.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,854.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)