ราคาน้ำมันทรงตัวและทองคำพุ่งแรงในวันพฤหัสบดี (11 พ.ย.) ยังมีความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ แต่วอลล์สตรีทปิดผสมผสาน นักลงทุนเชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นเพียงชั่วคราว และไม่เชื่อว่าเฟดจะมีความเคลื่อนไหวปรับเปลี่ยนนโยบายใดๆ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 81.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ ปิดที่ 82.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดพลังงานยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (10 พ.ย.) หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1990 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% จากระดับ 5.4% ในเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย จากความเชื่อมั่นว่าอุปสงค์ทางพลังงานหลังโรคระบาดใหญ่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
กระนั้นก็ตามความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อประกอบกับดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ฉุดให้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำขยับขึ้นแรง 2 วันติดต่อกันในวันพฤหัสบดี (11 พ.ย.) โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 15.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,863.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (11 พ.ย.) ปิดผสมผสาน นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้นของอเมริกา
ดาวโจนส์ ลดลง 158.71 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,921.23 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.56 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,649.27 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 81.58 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,704.28 จุด
นักลงทุนเริ่มเบาใจหลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยืนยันว่าการดีดตัวของเงินเฟ้อจะเป็นเพียงชั่วคราว ในขณะที่เศรษฐกิจโลกจะค่อยๆ คืนสู่ความคล้ายคลึงกับสถานการณ์ปกติในปีหน้า
ฟาวัด ราซักซาดา นักวิเคราะห์จากบริษัทติงค์มาร์เก็ตส์ ให้ความเห็นว่า "การฟื้นตัวของตลาดหุ้นในวันพฤหัสบดี บ่งชี้ว่านักลงทุนไม่เชื่อว่าเฟดจะปรับเปลี่ยนเส้นทาง ณ ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายในเดือนธันวาคม แม้สัญญาณเงินเฟ้อคือบททดสอบที่แท้จริงต่อคำจำกัดความชั่วคราว ของธนาคารกลาง"
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)