หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานในวันเสาร์(13พ.ย.) กองทัพสหรัฐฯปกปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเมื่อซีเรียปี 2019 ระหว่างสู้รบกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) คร่าชีวิตผู้หญิงและเด็กสูงสุด 64 คน ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม
รายงานของนิวยอร์กไทม์ส https://www.nytimes.com/2021/11/13/us/us-airstrikes-civilian-deaths.html. ระบุว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเนื่อง 2 เที่ยวใกล้เมืองบากูซ เป็นคำสั่งของหน่วยปฏิบัติการพิเศษลับหนึ่งของอเมริกา ที่ได้รับมอบหมายภารกิจภาคสนามในซีเรีย
สื่อมวลชนแห่งนี้รายงานว่ากองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ซึ่งดูแลปฏิบัติการทางอากาศของอเมริกาในซีเรีย ยอมรับเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีดังกล่าวเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ แต่ยืนยันว่าปฏิบัติการครั้งนั้นมีความชอบธรรม
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันเสาร์(13พ.ย.) กองบัญชาการกลางสหรัฐฯเน้นย้ำว่าข้อมูลที่พวกเขาให้กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส คือมีผู้เสียชีวิต 80 คนในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ในนั้นประกอบด้วยนักรบรัฐอิสลาม 16 คนและพลเมือง 4 คน ส่วนผู้เสียชีวิตคนอื่นๆอีก 60 ราย ทางกองทัพไม่แน่ใจว่าเป็นพลเมืองหรือไม่ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าผู้หญิงและเด็กเหล่านั้นอาจเป็นนักรบก็ได้
ทางกองทัพระบุในถ้อยแถลงด้วยว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศดังกล่าว "เป็นปฏิบัติการป้องกันตนเองที่ชอบธรรม สมน้ำสมเนื้อ และได้ใช้มาตรการต่างๆที่เหมาะสมในการตัดความเป็นไปได้ที่จะมีพลเรือนอยู่ในบริเวณนั้น"
A U.S. airstrike in 2019 that killed dozens of civilians in Syria was buried by the military. An investigation by The New York Times pieced together what happened. https://t.co/8sbq3ajmc6
— The New York Times (@nytimes) November 13, 2021
"เราชิงชังต่อการสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์และใช้มาตรการต่างๆที่มีความเป็นไปได้ทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสีย ในกรณีนี้ เรารายงานด้วยตัวเองและสืบสวนปฏิบัติการโจมตีตามหลักฐานของเรา และแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการสูญเสียชีวิตโดยไม่เจตนา" กองบัญชาการกลางสหรัฐฯระบุ
ถ้อยแถลงระบุต่อว่า "จำนวนพลเรือนในบรรดาผู้เสียชีวิต 60 คน ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะว่ามีผู้หญิงติดอาวุธมากมายและสังเกตเห็นเด็กติดอาวุธอย่างน้อย 1 คนในวิดีโอของเหตุการณ์" พร้อมกล่าวต่อว่าในบรรดาผู้เสียชีวิต 60 คน ส่วนใหญ่แล้วมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นนักรบ
กองบัญชาการกลางสหรัฐฯเปิดเผยว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งนี้เกิดขึ้นใขณะที่กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (Syrian Democratic Forces หรือ SDF) พันธมิตรของอเมริกาในสงครามซีเรีย ถูกเล่นงานอย่างหนัก และกำลังตกอยู่ในอันตรายจากการถูกรุกไล่ และทาง SDF แจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่มีพลเรือน
ผู้ตรวจการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเปิดการไต่สวนเหตุการณ์นี้ในวันที่ 18 มีนาคม 2019 ท้ายที่สุดในรายงานของคณะผู้ตรวจการได้ถอดการพาดพิงใดๆเกี่ยวกับเหตุทิ้งระเบิด และการตรวจสอบอิสระอย่างละเอียดไม่เคยเกิดขึ้น หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ระบุ
นิวยอร์กไทม์สระบุว่ารายงานของพวกเขานั้นมาจากเอกสารลับและให้คำจำกัดความว่าเป็นรายงานลับสุดยอด เช่นเดียวกับกับการไปสัมภาษณ์สอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรง
รายงานของนิวยอร์กไทม์สระบุด้วยว่าทนายความของกองทัพอากาศรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในศูนย์ปฏิบัติการด้วยในตอนนั้น เชื่อว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศดังกล่าวอาจเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม และต่อมาไปแจ้งไปยังผู้ตรวจการของกระทรวงกลาโหม และคณะกรรมธิการด้านการทหารของวุฒิสภา หลังจากไม่มีการดำเนินการใดๆ
(ที่มา:รอยเตอร์)