นครเสิ่นหยางของจีนยกระดับมาตรการคุมเข้ม “โควิด-19 เป็นศูนย์” โดยกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศต้องทำการกักตัวไม่น้อยกว่า 56 วัน
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ทางการนครเสิ่นหยางในมณฑลเหลียวหนิงกำหนดให้ผู้เดินทางต่างชาติต้องกักตัวที่โรงแรมไม่ต่ำกว่า 28 วัน โดยระหว่างนั้นจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 7 ครั้ง
ว่ากันว่ามาตรการดังกล่าวเข้มงวดถึงขนาดที่ผู้กักตัวไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดประตูห้องพัก ยกเว้นเฉพาะเวลามีเจ้าหน้าที่นำอาหารไปส่งเท่านั้น
หลังจากที่ผ่านช่วงกักตัวในโรงแรมแล้ว ผู้เดินทางยังต้องกักตัวเองที่บ้านอีกเป็นเวลา 28 วัน
มาตรการคุมเข้มลักษณะนี้ยังถูกนำมาใช้กับผู้เดินทางในจีนเองด้วย โดยชาวจีนจากเมืองอื่นๆ ที่เดินทางเข้านครเสิ่นหยางจะต้องกักตัวในโรงแรมก่อน 2 สัปดาห์ จากนั้นก็เฝ้าสังเกตอาการที่บ้านอีก 2 สัปดาห์ ตามรายงานของนิวยอร์กไทม์ส
จีนรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 39 ราย และผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ 25 รายในวันพุธ (10) ท่ามกลางความพยายามของภาครัฐที่จะสกัดเชื้อสายพันธุ์ “เดลตา” ซึ่งเวลานี้แพร่ได้กระจายไปไปยัง 20 มณฑลและภูมิภาค
รัฐบาลจีนได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังจากประชากรกว่า 75% ของประเทศได้รับวัคซีนป้องกันโควิดครบ 2 โดสแล้ว
สำนักข่าวอัลญาซีเราะห์รายงานว่า จีนยังได้สร้างสถานที่กักตัวผู้เดินทางต่างชาติซึ่งมีห้องพักมากถึง 5,000 ห้องไว้ที่ชานนครกว่างโจว โดยมีการใช้เทคโนโลยีสื่อสาร 5G และระบบเอไอที่ทันสมัย บ่งชี้ว่าปักกิ่งคงจะยังไม่ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มพรมแดนในเร็วๆ นี้
ที่มา: Independent