ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ถูกสื่อมวลชนจับภาพได้ขณะนั่งนิ่งหลับตาช่วงสั้นๆ ก่อนหน้าขึ้นปราศรัยกับนานาชาติในวันจันทร์(1พ.ย.) จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินมาหาจึงลืมตาขึ้นมา ดูเหมือนเผลองีบหลับระหว่างพิธีกล่าวเปิดงานการประชุมซัมมิตการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลก COP26 ในสกอตแลนด์
ในตอนแรก ประธานาธิบดีสหรัฐฯนั่งหลับตาเป็นเวลา 7 วินาที ก่อนลืมตาขึ้นมา แต่จากนั้นเขาก็หลับตาอีกครั้ง คราวนี้นานกว่าเดิมเป็นเวลา 22 วินาที จนกกระทั่งมีผู้ช่วยคนหนึ่งเดินเข้ามาหาและปลุกเขา
ไบเดน มีท่าทางเหมือนคนงีบหลับระหว่างรับฟังคำปราศรัยของ เอ็ดดี เอ็นโดปู นักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิของผู้พิการ ที่กล่าวเตือนว่าภาวะโลกร้อนได้คุกคามศักยภาพการปลูกอาหารหรือแม้กระทั่งการอยู่รอดของมนุษย์
ผู้นำสหรัฐฯหลับตานานขึ้นระหว่างที่ เอ็นโดปู พูดเรียกร้องขอคำมั่นสัญญาดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับหยุดการทำลายล้างโลกอันงดงามใบนี้ "การประชุมนี้คือหนึ่งในการประชุมครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์" เอ็มโดปู กล่าวต่อในขณะที่ ไบเดน ยังคงหลับตา
"คุณมีโอกาสเป็นคนตัดสินใจต่างๆและบรรลุข้อตกลงต่างๆที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตหลายชั่วอายุคนในอนาคต คุณอยู่ในสถานะที่มีอำนาจพิเศษ คุณสามารถเปลี่ยนไปวิถีที่เราเป็นอยู่ในเวลานี้ไปตลอดกาล คุณสามารถทำให้โลกกลับมาเป็นโลกที่เต็มไปด้วยความหวังอีกครั้ง ไม่ใช่โลกแห่งความกลัว"
Biden appears to fall asleep during COP26 opening speeches pic.twitter.com/az8NZTWanI— Zach Purser Brown (@zachjourno) November 1, 2021
แซค บราวน์ ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เขียนบนทวิตเตอร์พร้อมกับโพสต์คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันอย่งกว้างขวาง "ดูเหมือน ไบเดน จะงีบหลับระหว่างพิธีกล่าวเปิดงานการประชุมซัมมิต COP26"
"ดูเหมือนว่าบางทีเขากำลังงีบหลับ" เคลลี โอ ดอนเนลล์ ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวซ์ กล่าวกับเอ็มเอสเอ็นบีซี หลังจากเกิดเหตุ
ไบเดน เป็นประธานาธิบดีอายุมากที่สุดเท่าเคยมีมาของสหรัฐฯ และจะมีอายุครบ 79 ปีในเดือนนี้
ต่อมาในวันจันทร์(1พ.ย.) ไบเดน ได้กล่าวสุนทรพจน์เป็นเวลาเกือบ 12 นาทีที่การประชุมในกลาสโกว์ เรียกร้องบรรดาประเทศต่างๆทั่วโลกลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล แต่เขาไม่ได้พาดพิงจีน ผู้ก่อมลพิษสูงสุด โดยตรง
"ในพวกเรา มีผู้อยู่เบื้องหลังการตัดไม้ทำลายป่าส่วนใหญ่ และทุกปัญหาที่เรามีจนถึงตอนนี้ เป็นภาระหน้าที่ของประเทศต่างๆ ที่ในข้อเท็จจริงไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเขาไม่ยอมทำมัน" ไบเดนกล่าว
(ที่มา:นิวยอร์ก)