xs
xsm
sm
md
lg

ประชากร “น้อนมิ้ว อเมริกัน” มีถึง 2 แสนตัวในกรุงวอชิงตัน: มากไปไหม เพราะสายพันธุ์นกถูกทำลาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผลการสำรวจประชากรแมวพบว่า กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีแมวทั้งสิ้นประมาณ 200,000 ตัว โดยครึ่งหนึ่งจะเตร็ดเตร่เร่ร่อนไปตามพื้นที่ต่างๆ และทำการล่าสัตว์ในสภาพธรรมชาติ เช่น นก ซึ่งตายเพราะแมว ปีละมหาศาล โดยมีผลการศึกษาที่ระบุว่า ในแต่ละปี แมวทั่วสหรัฐฯ สังหารนกเป็นจำนวนประมาณ 1,300-4,000 ล้านตัว
ทันทีที่อุ้งเท้าหน้าของเจ้าหนวดยาว แตะลงบนแผ่นดิน คุณน้อนมองขึ้นตรวจตราสภาพแวดล้อมอย่างระแวดระวัง สองตาพุ่งปราดไปทางซ้าย ในจังหวะการขยับนั้นเอง กล้องถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่าด้วยระบบอัตโนมัติ ก็คลิกเบาๆ และบันทึกรูปไว้ได้เป็นที่เรียบร้อย

น้อนสี่ขาหนวดยาวตัวนี้เป็นแมวพเนจร แต่สถานที่ดังกล่าวมิใช่ป่าเขตร้อน หากเป็นเมืองหลวงแห่งสหรัฐอเมริกา คือ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. (Washington District of Columbia) ซึ่งเรียกกันขำๆ ว่า วอชิงตัน ดิสตริก ออฟ แคท)

รูปภาพที่ถ่ายทำกันนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจสำรวจประชากรน้อนมิ้วแห่ง ดี.ซี. ซึ่งจัดทำกันเป็นครั้งแรกของสหรัฐอเมริกา โดยดำเนินงานกันทั้งสิ้น 3 ปี นับแต่เมื่อปี 2018 และมีหลายหน่วยงานร่วมดำเนินการ อาทิ Pet Smart Charities, ASPCApro, Smithsonian Zoo และ Humane Rescue Alliance และนักวิทยาศาสตร์อีกจำนวนมาก โดยหน่วยงานเล่านี้ดำเนินงานอุทิศตัวช่วยเหลือสวัสดิภาพของสัตว์ ตลอดจนเป็นหน่วยงานด้านการอนุรักษ์

ผลการสำรวจสำมะโนประชากรแมว ซึ่งประเมินขนาดของประชากรแมวทั้งหมดทั้งมวลในวอชิงตัน ดี.ซี. ไม่ว่าจะเป็นแมวบ้าน แมวเร่ร่อน หรือแมวในสถานพักพิง ได้พบว่า...

มีแมวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ราว 2 แสนตัว (ขณะที่ประชากรมนุษย์มีประมาณ 7 แสนคน ซึ่งเทียบเท่ากับสัดส่วน 1:3.5 กันเลยทีเดียว)

ทั้งนี้ 1 แสนตัวโดยประมาณ เป็นแมวพเนจรเตร็ดเตร่ไปตามพื้นที่ต่างๆ และในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นแมวรักอิสระแต่ก็มีบ้านของทาสแมวให้กลับไปเจ๊าะแจ๊ะได้ทุกเมื่อที่ต้องการ และส่วนหนึ่งเป็นแมวพเนจรขนานแท้กับเป็นแมวที่ไม่ยอมไว้ใจมนุษย์หน้าไหนทั้งสิ้นซึ่งมีอยู่ประมาณ 3,000-4,000 ตัว

ไทเลอร์ ฟล็อคฮาร์ต นักนิเวศวิทยาสายอนุรักษ์ซึ่งเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ ศูนย์วิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ให้ข้อมูลดังกล่าว และบอกด้วยว่าย่านที่อยู่อาศัยของผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจดีจะมีแมวพเนจรน้อยอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ประชาชนในช่วงวัย 40 ปีเป็นกลุ่มที่มีการเลี้ยงแมวมากที่สุด

นอกจากนั้น คุณฟล็อคฮาร์ตซึ่งมีบทบาทในฐานะหนึ่งในแกนนำของภารกิจการนับจำนวนแมวแห่งกรุงวอชิงตัน ยังกล่าวด้วยว่า เราจะไม่สามารถพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทอื่นใดที่มีขนาดประชากรหนาแน่นได้มากเท่านี้

น้อนมิ้วเร่ร่อนเตร็ดเตร่ไปทั่วกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แต่ในย่านที่อยู่อาศัยของผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจดี จะไม่ค่อยพบเห็นน้อนมิ้วพเนจร

ในพื้นที่ซึ่งรกชัฎ จะมีการติดตั้งกล้องถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่าไว้หลายจุด ซึ่งจะได้รูปน้อนมิ้วพเนจรอย่างมากมาย

ถิ่นที่หนาแน่นด้วยต้นไม้เป็นพื้นที่ที่น้อนมิ้วนิยมเข้าไปพักผ่อน เตร็ดเตร่ และไล่ล่าสัตว์เล็ก กระนั้นก็ตาม ในสวนสาธารณะใหญ่ๆ ของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีการดูแลพื้นที่เป็นอย่างดี  ส่งผลให้ประชากรแมวเร่ร่อนไม่ค่อยปรากฏให้เห็น
เถียงกันมานานว่าคุณมิ้วสัญจรเป็นอันตรายต่อสมดุลแห่งธรรมชาติหรือไม่

ที่ผ่านมา แมวเตร็ดเตร่และพเนจรถูกหน่วยงานด้านอนุรักษ์ระบุว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำลายประชากรนก ในเวลาเดียวกัน ฝ่ายที่ช่วยเหลือสัตว์ก็พยายามจะดูแลให้ประชากรแมวทั้งปวงสามารถดำรงชีพตามท้องถนนและสถานที่ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีสวัสดิภาพที่ดี

ทั้งนี้ มีผลการศึกษาที่ระบุว่า ในแต่ละปี แมวทั่วสหรัฐฯ สังหารนกเป็นจำนวนมหาศาลประมาณ 1,300-4,000 ล้านตัว และรายงานดังกล่าวระบุด้วยว่าแมวเป็นผู้ล่าที่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมของโลกมากที่สุด เว็บไซต์ archyworldys.com รายงาน

ในการนี้ HRA ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานสำรวจสำมะโนประชากรแมว ให้ความเห็นว่าโครงการดังกล่าวนี้เป็นเวทีสำคัญที่นำองค์การต่างๆ เข้ามาดำเนินงานร่วมกัน โดยวางอคติลงก่อน และไม่มีการตั้งธงว่าใครถูกใครผิด แต่มาช่วยกันดูแลเพื่อประสานแก้ไขสิ่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์

สเตฟานี เชน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ HRA บอกว่าหน่วยงานได้รณรงค์แนะนำบรรดาเจ้าของแมวใส่ใจดูแลให้ลูกน้อยหนวดยาว อยู่แต่ในบ้าน เพื่อความปลอดภัยของน้อง พร้อมกับช่วยป้องกันผลกระทบต่อสัตว์ป่าสายพันธุ์ต่างๆ

“ดิฉันพอใจนะคะว่าประชาชนผู้เลี้ยงแมวมากเลยช่วยกันปฏิบัติตามคำแนะนำของ HRA” คุณเชนกล่าว

การส่งเสริมให้ครัวเรือนต่างๆ รับแมวไปอุปการะเลี้ยงดู เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญเพื่อช่วยให้สัตว์น่ารักเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมกับช่วยป้องกันไม่ให้พวกเขาไปไล่ล่าสัตว์ต่างๆ อาทิ นก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสมดุลธรรมชาติ ในภาพนี้ น้อนมิ้วสบายเนื้อสบายตัวในอ้อมกอดของเจ้าหน้าที่ของสถานพักพิงสัตว์ Humane Rescue Alliance หรือ HRA หน่วยงานรายใหญ่ด้านการสงเคราะห์ช่วยเหลือสัตว์ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ในการสำรวจสำมะโนประชากรแมวที่ดำเนินการด้วยงบประมาณสูงถึง 1.5 ล้านดอลลาร์ และใช้เวลาประมาณ 3 ปีนั้น นักวิจัยออกเซอร์เวย์สุ่มตัวอย่างมากกว่า 2,600 ครัวเรือน และวิเคราะห์ตัวเลขของสถานพักพิงสัตว์ต่างๆ อีกทั้งมีการออกเดินสำรวจไปตามเส้นทางพิเศษหลายหลากเส้นทางเพื่อเก็บข้อมูล พร้อมทั้งตั้งกล้องถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่าในจุดต่างๆ รวมทั้งสิ้น 1,530 จุด

“โครงการของเราน่าจะเป็นการวิเคราะห์ประเด็นเกี่ยวกับแมวที่ละเอียดและรอบด้านอย่างที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดทำกันมาในเมืองต่างๆ ทั่วโลก” คุณฟล็อคฮาร์ตกล่าว

หลังประกาศโครงการสำรวจสำมะโนประชากรแมวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อเดือนกรกฎาคม 2018 คุณฟล็อคฮาร์ตและคณะวิจัยได้ดำเนินการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจนเสร็จสิ้น ตลอดจนทำขั้นตอนทบทวนผลการศึกษาในหลายเวทีเป็นที่เรียบร้อย โดยผลการศึกษาได้พัฒนาเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการเรื่องแมวได้เต็มศักยภาพ พร้อมนี้ทีมวิจัยได้นำเครื่องมือดังกล่าวนำเผยแพร่บนเว็บไซต์ https://hub.dccatcount.org เพื่อให้หน่วยงานอื่นๆ นำไปดำเนินการสำรวจสำมะโนประชากรแมวในพื้นที่ต่างๆ ได้

กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีสัตว์ป่าเข้ามาอาศัยกันหลากหลายสายพันธุ์

ในบรรดารูปต่างๆ ที่ได้จากกล้องถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่า 1,530 จุดนั้น นอกจากจะมีรูปของแมวแล้ว ยังมีสัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย เช่น กวาง สุนัขจิ้งจอก แร็กคูน กระรอก แต่ที่น่าตื่นเต้นคือ แมวป่า

“บ้านเมืองของเรามีความหลากหลายด้านสายพันธุ์สัตว์ป่ามากมายเลยครับ” คุณฟล็อคฮาร์ต บอกไว้

แมวป่าในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ถูกบันทึกภาพไว้ได้ในโครงการสำรวจสำมะโนประชากรแมว และกลายเป็นข่าวขึ้นมาในประเด็นว่า แมวป่ากลับมาแล้วหรือ เพราะในอดีตที่ผ่านมาพื้นที่ของกรุงวอชิงตันเคยเป็นถิ่นที่อาศัยของแมวป่า  ด้านผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลว่าแมวป่าไม่เป็นอันตรายสำหรับมนุษย์ เนื่องจากมีขนาดร่างกายเล็ก และไม่กล้าต่อสู้กับสุนัขในเมือง

กล้องบันทึกภาพชีวิตสัตว์ป่าที่ใช้ถ่ายรูปน้องมิ้วในจุดต่างๆ 1,530 จุดทั่วกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นกล้องที่กดชัตเตอร์ด้วยระบบอัตโนมัติโดยกระตุ้นด้วยการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตที่ผ่านหน้าเลนส์กล้อง  ทั้งนี้ มีกลยุทธ์การติดตั้งกล้องไว้จุดละ 15 วัน แล้วจึงเคลื่อนย้ายกล้องไปยังจุดอื่นๆ  ยอดรวมจำนวนภาพแมวที่บันทึกไว้ได้ อยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านภาพ ส่วนใหญ่เป็นภาพแมวจ้องมายังกล้อง ภาพแมวรับประทานอาหารและดื่มน้ำ กับภาพแมวขณะไล่ล่าเหยื่อ
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา: AFP hub.dccatcount.org rchyworldys.com)



กำลังโหลดความคิดเห็น